ในสังคมปัจจุบันนี้เกือบ 80 เปอร์เซ็นต์ที่คนส่วนใหญ่มิได้ให้ความสำคัญกับอาหารเช้า เนื่อง จากต้องเร่งรีบแข่งกับเวลาเพื่อไปเรียนหรือไปทำงาน คนไทยเราจะให้ความสำคัญกับอาหารเย็น เน้นว่าเป็นมื้อที่ต้องรับประทานอาหารหนักๆ มากกว่ามื้อกลางวัน ส่วนมื้อเช้านั้นบางคนข้ามไปเลย บางคนก็ดื่มกาแฟเพียง 1 ถ้วยเท่านั้น สังเกตให้ดีจะพบว่าคุณจะรู้สึกไม่สดชื่นกระปรี้กระเปร่าถ้ามื้อเช้าคุณไม่ได้ให้สารอาหารที่ร่างกายต้องการ คืออาหารโปรตีนสูงและไขมันอย่างพอเพียง อาหารเช้าที่หนักเกินไปก็เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง ร่างกายต้องการเพียงสารอาหารที่ครบถ้วนในปริมาณไม่มากนัก เพื่อที่คุณจะได้มีกำลังวังชา สมองปลอดโปร่ง กระปรี้กระเปร่า พลังงานจะอยู่ในร่างกายคุณเป็นเวลานานและทำให้คุณไม่หิวบ่อยถ้าได้รับประทานอาหารเช้าที่ดี อาหารเย็นไม่ควรเป็นมื้อหนักสำหรับคุณ เพราะคุณอาจยังไม่รู้สึกหิวในมื้อเช้า
แก้อาการแสบกระเพาะอย่างไร
โรคกระเพาะอาหารนั้นมีอาการปวดท้องและแสบกระเพาะซึ่งเป็นเรื่องแสนทุกข์ทรมานอย่าง ยิ่งสำหรับผู้ป่วยเป็นโรคกระเพาะอาหาร วิธีง่ายๆ ที่คุณสามารถบำบัดเยียวยาอาการปวดแสบนั้นให้หายไปได้ก็คือ รับประทานอาหารแต่ละมื้อแต่ละวันเพียงเล็กน้อยพออิ่ม อย่ารับประทานมากๆ เพียงเพื่อความอร่อยเท่านั้น โดยเฉพาะอาหารเปรี้ยวจัด เค็มจัด เผ็ดจัด ควรงดเด็ดขาด การรับประทานกล้วยกับน้ำผึ้งหรือรับประทานเนยถั่วก็เป็นเมนูพิเศษที่ดีสำหรับป้องกันอาการปวดแสบหรือแสบเกี่ยวกับแผลในกระเพาะ แต่ไม่จำเป็นต้องรับประทานมากๆ เพียงครั้งคราวก็พอแล้ว หัวใจสำคัญอยู่ที่การรับประทานอาหารน้อยๆ เท่านั้นเอง และมีอีกประการหนึ่งที่ทำให้เกิดอาการแสบกระเพาะได้ด้วยเช่นกัน นั่นก็คือการสูบบุหรี่ ซึ่งคุณควรเลิกทันทีตั้งแต่เริ่มเป็นโรคกระเพาะ
คุณแม่คนใหม่ไม่ควรแตะต้องบุหรี่และแอลกอฮอล
์ เมื่อคุณผู้หญิงตั้งครรภ์แล้ว การเตรียมตัวเป็นคุณแม่คนใหม่ที่ควรกระทำเป็นอันดับแรกก็คือ เลิกสูบบุหรี่ และเลิกดื่มเหล้า เบียร์ ไวน์ เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ทุกชนิด คุณรู้ไหมว่าลูกน้องที่เกิดมาจากคุณแม่ผู้สูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์นั้นจะมีน้ำหนักตัวที่น้อยกว่าปกติ นอก จากนั้นยังมีผลกระทบถึงพฤติกรรมในเวลาต่อมา เช่น จะเป็นเด็กที่ตื่นตกใจง่าย เวลาร้องไห้ก็จะมีเสียงสั่นและแหลม การขยับแขนขาค่อนข้างรุนแรงกว่าในระดับปกติ
กินวิตามินซี ห่างไกลอาการเลือดออกตามไรฟัน
ถ้าช่วงใดที่คุณพบว่ามีเลือดออกตามไรฟันในขณะแปรงฟัน ตอนเช้าหรือก่อนนอน หรือบาง ครั้งก็มีเลือดออกมาตามไรฟันทั้งๆ ที่ยังไม่ได้อยู่ในช่วงแปรงฟัน คุณจะต้องตระหนักทันทีว่าร่างกายขาดวิตามินซีแล้วในช่วงนั้น การเติมวิตามินซีให้ร่างกายอย่างพอเพียงนั้นก่อนอื่นคุณต้องรู้ว่าคนเราต้องการวิตามินซีมากน้อยเท่าใดในแต่ ละวัน สำหรับวัยผู้ใหญ่ควรได้วิตามินซีวันละ 40 มิลลิกรัม เด็กๆ ต้องการวิตามินซีประมาณ 30 มิลลิกรัม คนเราจะต้องกินอาหารที่มีวิตามินซีให้พอเพียงทุกๆ วัน เพราะวิตามินซีจะไม่ได้ถูกร่างกายเก็บสะสมไว้ แต่จะขับถ่ายออกมาทางปัสสาวะ ถ้าคนเรากินวิตามินซีมากเกินกว่าที่ร่างกายจะนำไปใช้ ดังนั้นคุณต้องกินวิตามินซีทุกๆ วัน ไม่ใช่กินวันนี้มากๆ เผื่อวันอื่นๆด้วย เพราะไม่ว่าจะกินมากอย่างไรร่างกายก็ดูดซึมไปไม่หมดแน่ แต่การกินวิตามินซีมากๆ นั้นไม่มีอันตรายใดๆ ต่อร่างกาย ยิ่งจะมีประโยชน์ด้วยสำหรับการขับถ่าย โดยเฉพาะถ้าคุณกินวิตามินซีจากแหล่งอาหารอย่างผักและผลไม้ ถ้าคุณรับประทานมะม่วงดิบ 100 กรัม ก็จะได้วิตามินซีประมาณ 60 มิลลิกรัมอย่างสบายๆ
กระเทียมดูแลหัวใจ
กระเทียมเป็นของคู่ครัวที่คนไทยเราคุ้นเคยกันดี แต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่าในกระเทียมนั้นมีสาร อาหารสำคัญมากมายมหาศาลที่ล้วนแล้วแต่มีสรรพคุณทางยาอย่างน่าอัศจรรย์ กระเทียมช่วยป้องกันอาการหัวใจล้มเหลว ช่วยควบคุมความดันโลหิตให้อยู่ในระดับปกติ บำรุงประสาท กระตุ้นให้จิตใจสดใส ไม่หดหู่ ซึมเศร้า ไม่เป็นโรคเหน็บชา กล้ามเนื้อแข็งแรง มีกำลังวังชา กระตุ้นให้ร่างกายเกิดความอยากอาหาร เยียวยาอาการไอ รักษาโรคพยาธิ ขับปัสสาวะ ช่วยบำรุงระบบทางเดินหายใจ บรรเทาอาการที่เกี่ยวกับโรคลำไส้ บำรุงเลือด ป้องกันโรคตับ โรคเส้นโลหิตตีบตัน บำบัดอาการโรครูมาติซึม โรคข้ออักเสบ ต้านทานโรคภูมิแพ้ ช่วยลดคอเลสเตอรอล นอกจากนั้นกระเทียมยังรักษาโรคเกี่ยวกับผิวหนังได้อีกด้วย ถ้าคุณรับประทานกระเทียมสม่ำเสมอโรคภัยอันตรายต่างๆ จะไม่มากล้ำกรายร่างกายทำลายสุขภาพของคุณ ได้แน่นอน กระเทียมช่วยขจัดสารพิษออกจากร่างกาย คนที่มีไขมันอุดตันในเส้นเลือดมากอาจเกิดการหัวใจวายได้ การรับประทานกระเทียมเป็นประจำเท่ากับว่าคุณได้ดูแลหัวใจของคุณให้แข็งแรงไว้ก่อนที่จะมีอาการใดๆ เกิดขึ้น
เมื่อไร้เรี่ยวแรง หน้ามือ วิงเวียน แก้ไขรวดเร็วได้อย่างไร
เมื่อคุณทำงานหนักอย่างต่อเนื่องหรือออกกำลังกายอย่างหักโหมคุณจะรู้สึกตัวสั่น หน้ามืด เหมือนจะเป็นลม หรือรู้สึกอ่อนเปลี้ยเพลียแรง แสดงว่าขณะนั้นภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำลง คุณสามารถฟิตสภาวะของร่างกายให้สดชื่นขึ้นมาได้อย่างทันทีทันใดด้วยการรับประทานน้ำส้มคั้นสดๆ สัก แก้ว ซึ่งเป็นทางออกที่ถูกต้องและมีประโยชน์มากกว่าดื่มน้ำผสมกลูโคสหรือเครื่องดื่มที่ผสมสารรสหวานใดๆ อาหารประเภทบะหมี่ ก๋วยเตี๋ยว ข้าว ขนมปัง ถั่วต่างๆ ผักสดและผลไม้สดๆ ทุกชนิด จะนำพลังและความสดชื่นมาสู่ร่างกาย นำน้ำตาลสู่สมองของคุณอย่างถูกต้องและปลอดภัย ได้ผลเร็วกว่าการดื่มเครื่องดื่มผสมน้ำตาลที่เรามักเข้าใจผิดกันมาโดยตลอด
น้ำมันตับปลา อาหารเสริมที่น่าสนใจ
เรามักเข้าใจว่าน้ำมันตับปลาเป็นอาหารเสริมที่เหมาะสำหรับเด็กๆ เท่านั้น แต่ความจริงแล้วแม้ แต่คนในวัยหนุ่มสาวและผู้ใหญ่ ผู้สูงอายุก็สมควรสนใจอาหารเสริมตัวนี้อย่างจริงจังเช่นกัน น้ำมันตับปลาช่วยบำรุงร่างกายให้แข็งแรง กระตุ้นให้การเผาผลาญในร่างกายเป็นไปอย่างดีเยี่ยม เด็กๆ หรือ ผู้ใหญ่ที่เริ่มที่จะผอมแห้งแรงน้อย เจ็บป่วยง่าย ร่างกายขาดสารอาหาร ก็ควรรับประทานน้ำมันตับปลา ซึ่งปัจจุบันก็มีรสต่างๆ เพื่อให้รับประทานได้ง่าย และมีชนิดแคปซูลอีกด้วย
หอมหัวใหญ่ไม่ใช่ตัวประกอบ
ในอาหารจานต่างๆ ที่มีหอมหัวใหญ่ประกอบอยู่ด้วยนั้นส่วนใหญ่ดูเหมือนว่ามันเป็นเพียงตัว ประกอบที่ช่วยเพิ่มรสชาติให้กับอาหารจากนั้น มิได้เป็นตัวเด่นตัวเอกแต่อย่างใด แต่แท้จริงแล้วหอมหัวใหญ่เป็นแหล่งวิตามินและแร่ธาตุสำคัญๆ มากมายเช่น แคลเซียม เหล็ก ฟอสฟอรัส วิตามินซี เอ บี1 และบี2 โดยเฉพาะ "กำมะถัน" คือแร่ธาติสำคัญที่จะบันดาลผิวพรรณอันเปล่งปลั่งสดใสให้กับคุณได้อย่างวิเศษ ซึ่ง มีกำมะถันในหอมหัวใหญ่มากมายทีเดียว ถ้าคุณรับประทานหอมหัวใหญ่สม่ำเสมอผิวพรรณของคุณจะดูผุดผ่อง มีสีเลือดฝาด บ่งบอกถึงสุขภาพที่ดีของผิวความเนียนละมุนละไมจะเกิดขึ้นอย่างเห็นได้ชัด หอมหัวใหญ่ทำให้คุณขับถ่ายสะดวกสบายและยังทำให้นอนหลับได้ง่ายแบบสบายๆ อีกด้วย คนที่เป็นหวัดง่ายหรือแพ้อากาศก็ควรรับประทานหอมหัวใหญ่เสมอๆ ซุปมันฝรั่งใส่หอมหัวใหญ่ ไข่เจียวหอมหัวใหญ่ ยำต่างๆ สลัดต่างๆ เหล่านี้คือเมนูหอมหัวใหญ่ที่คุณควรใส่ใจ
มะเขือเทศอาหารวิเศษเพื่อสุขภาพ
มะเขือเทศฝานบางๆ สีแดงอมส้มสดใสน่ากินมักกลายเป็นเครื่องประดับอาหารจานอร่อย หลากหลายรายการ เป็นต้นว่าข้าวผัด ยำต่างๆ ของทอดของว่างต่างๆ โดยที่บางท่านไม่แตะต้องมันเลยสักชิ้น แต่คุณรู้บ้างไหมว่าถ้าคุณรับประทานมะเขือเทศเพียงวันละ 1-2 ลูกเท่านั้น จะให้ประโยชน์ต่อร่างกายของ คุณมากมายมหาศาลเพียงใด ต้านโรคความดันโลหิตสูง บำรุงดวงตา บำรุงสายตา บำบัดอาการปัสสาวะขัด บำรุงเหงือกและฟัน ป้อง กันหลอดเลือดแข็งตัว เยียวยาโรคเลือดออกตามไรฟัน ต้านทานโรคภัยไข้เจ็บ คุ้มกันไม่ให้เป็นหวัดง่าย แก้ท้องผูก บำรุงผิวพรรณ ทั้งหมดที่กล่าวมานี้…ถ้าคุณรับประทานมะเขือเทศเป็นประจำสม่ำเสมอ วันละ 1-2 ลูกทุกวัน สุขภาพของคุณก็จะสดชื่นแข็งแรง และได้ประโยชน์จากสรรพคุณอันแสนวิเศษของมะเขือเทศทั้งหมดนั้นอย่างแน่นอน
อายุมากไม่ควรกินยามาก
เมื่อคนเรามีอายุสูงขึ้นความเจ็บไข้ได้ป่วยมักจะมาเยือนอยู่บ่อยๆ คนที่มีอายุมากขึ้นจึงหลีก เลี่ยงไม่พ้นที่จะต้องรับประทานยานานาชนิดอยู่เป็นประจำ แต่มีความจริงข้อหนึ่งที่เรายังไม่ตระหนักกันว่ายาบางชนิดที่คนสูงอายุต้องรับประทานเข้าไปบ่อยๆ หรือทุก วี่ทุกวันนั้นกลับไปทำให้คนสูงอายุตกอยู่ในสภาวะที่ร่างกายขาดสารอาหาร ยาบางชนิดจะขับวิตามินและแร่ธาตุสำคัญออกไปจากร่างกาย เช่น วิตามินเอ วิตามินดี วิตามินอี วิตามินเค ไนอาซิน และปริมาณสังกะสี แมกนีเซียม โพรแทสเซียม ก็จะลดลงไปไม่น้อยอีกด้วย มียาอีกหลายชนิดที่แม้จะมีสรรพคุณเยียวยารักษาโรคหรืออาการบางอย่างได้ดีแต่ก็มีสารที่ไปทำลายสมองของผู้ป่วย โดยเฉพาะยาของคนป่วยเป็นโรคความดันโลหิตโรคพิษสุรา โรคเกี่ยวกับจิตประสาท มักมีสารที่กระทบกระเทือน ทำให้สมองไม่คึกคักสดชื่นและระบบการเผาผลาญในร่างกายทำงานได้อย่างไร้ประสิทธิภาพ ดังนั้นถ้าลดการรับประทานยาประเภทระงับอาการต่างๆ ลงไปได้บ้างก็จะมีประโยชน์ต่อสุขภาพของคนอายุมากอย่างแน่นอน
กินแมงกานีสวันละหน่อย ไม่ปวดหลัง ไม่ขี้ลืม ไม่เซื่องซึม
ถ้าร่างกายขาดแมงกานีสคุณจะรู้สึกว่าความจำไม่ค่อยดี ขี้หลงขี้ลืม หรืออาจมีอาการปวดหลัง ข้อกระดูกสันหลังเสื่อม การย่อยอาหารก็ทำงานอย่างขาดประสิทธิภาพ แต่ถ้าร่างกายได้แมงกานีสอย่างพอเพียงกล้ามเนื้อของคุณจะมีการยืดตัวหดตัวดีเยี่ยม ไม่ปวดหลัง ความ เซื่องซึมอ่อนเปลี้ยเพลียแรงก็จะหมดสิ้นไป ความจำดี ไม่มีอาการขี้ลืมง่ายๆ ลดอาการระคายเคืองทางประสาท นอกจากนั้นคนที่ป่วยเป็นโรคลมบ้าหมูก็สามารถมีอาการดีขึ้นได้ถ้ารับประทานแมงกานีสอย่างพอเพียง แหล่งอาหารที่อุดมด้วยแมงกานีส คือ ถั่วต่างๆ เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ถั่วทอด นม เนย ไข่ เนื้อสัตว์ ผักและผลไม้
ลองรับประทานรำข้าว เพื่อบำรุงร่างกายบ้าง
รำข้าวเป็นแหล่งวิตามินและแร่ธาตุที่อุดมสมบูรณ์มาก โปรตีน วิตามิน และเกลือแร่ต่างๆ ที่มี อยู่ในรำข้าว มีดังนี้ วิตามินบี1 บี2 บี3 บี5 บี6 กรดโฟลิก ไบโอติน วิตามินอี โซเดียม โพแทสเซียม แคลเซียม แมกนีเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก ทองแดง สังกะสี กำมะถัน และคลอไรด์ คุณอาจลองรับประทานรำข้าวด้วยการผสมกับนมสด 1 แก้ว ดื่มทุกวันหรือหุงปนกับข้าวต้ม ข้าวสวย นำไปปรุงร่วมกับอาหารบางอย่างก็ได้ เช่น ไข่เจียวหรือผัดต่างๆ รำข้าวจะช่วยทำให้คุณหมดปัญหาในการขับถ่าย ช่วยป้องกันโรคนิ่ว โรคเกี่ยวกับลำไส้
เห็ดหอมอัศจรรย
์ คุณประโยชน์มหาศาลที่เห็ดหอมจะบันดาลให้แก่สุขภาพของคนเราก็คือ บำรุงสมอง เพิ่มความสดชื่นคึกคัก ลดคอเลสเตอรอล ช่วยในระบบย่อยอาหาร ป้องกันหลอดเลือดแดง แข็งตัว ต้านมะเร็ง รักษาหอบหืด ลดความเครียด ต้านไวรัส บำรุงระบบประสาท ช่วยให้หลับง่าย บำรุงปอด บำรุงหลอดลม ชะลอความชรา ฯลฯ คุณควรบำรุงสุขภาพด้วยการนำเห็ดหอมมาปรุงอาหารทุกๆ สัปดาห์เป็นประจำ โดยนำมาปรุงเป็นอาหารจานผัดๆ ต้มๆ แต่ไม่ควรรับประทานในปริมาณมากจนเกินไป
ผมหงอกก่อนวัยกินอาหารช่วยได
้ เมื่อคุณมีเส้นผมบางส่วนที่หงอกขาวทั้งๆ ที่อายุยังไม่มากนัก คุณแก้ไขด้วยการย้อมสีผมซึ่งจะ ช่วยได้ดีพอควร แต่ก็ต้องย้อมกันเป็นประจำตลอดไปแน่นอน อาหารบางอย่างมีคุณสมบัติช่วยบำรุงเส้นผม เล็บมือ และผิวของคนเราอย่างได้ผล เส้นผมหงอกนั้นเป็นเพราะขาดทองแดง กรดโฟลิก กรดแพนโทเทนิก และพาบา คุณสามารถแก้ไขเส้นผมที่หงอกขาวให้กลับมาดำสนิทดังเดิมได้ด้วยการรับประทานโยเกิร์ต ตับ และยีสต์ โดยมีข้อแม้ว่าจะต้องรับประทานปริมาณมากๆ ทุกมื้อและทุกๆ วันอย่างสม่ำเสมอ
คนสายตาสั้น ควรสนใจวิตามินใดบ้าง
อย่าคิดว่าเมื่อสายตาสั้นแล้วก็จะต้องสั้นมากขึ้นเรื่อยๆ เสมอไป เนื่องจากว่าเซลล์ประสาทตานั้นจะไม่เสื่อมลงไปถ้าได้รับการบำรุงที่ดี โดยมากเราจะเคยได้รู้เพียงว่าคนที่รับ ประทานวิตามินเอเป็นประจำสม่ำเสมอจะมีดวงตาสวย สายตาดี เพราะวิตามินเอเกี่ยวข้องกับสายตาโดยตรงอยู่แล้ว แต่ทางวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้ค้นคว้าพบว่าวิตามินบี1 และวิตามินอีมีคุณสมบัติช่วยบำรุงเรื่องตาของคนเราได้เป็นอย่างดี การขาดวิตามินอีทำให้จอรับภาพของตาเสื่อม การขาดวิตามินบี1 ประสาทที่ทำหน้าที่นำภาพไปสู่สมองก็จะเกิดผิดปกติ มีผลทำให้ประสาทเสื่อม อาหารที่เป็นแหล่งวิตามินอี และ บี1 ที่ดี ได้แก่ ตับ นม ถั่วลิสง ถั่วต่างๆ ไข่แดง ข้าวซ้อมมือ เต้าหู้ เนื้อหมู งา กระเทียม และสาหร่าย
เลซิติน บำรุงหัวใจ บำรุงประสาท
แหล่งอาหารที่มีเลซิติน ได้แก่ ตับ เนื้อวัว ไข่ เนยแข็ง ถั่วเหลือง ถั่วลิสง ข้าวโพด ข้าวโอ๊ต ข้าวสาลีเป็นต้น เลซิตินจะให้ประโยชน์แก่ร่างกายในการบำรุงสมองอย่างดีเยี่ยมที่สุด นอกจากนั้นยังช่วยละลายไขมันในหลอดเลือด ช่วยบำรุงประสาท เพราะเลซิตินเป็นส่วนประกอบของแผ่น เนื้อเยื่อบางๆ ที่หุ้มรอบเส้นใยประสาทและยังเป็นตัวที่จำเป็นต้องการสร้างสารเคมีบางอย่างในระบบประสาท ผิวพรรณของคุณจะสดใส มีน้ำมีนวล ปราศจากรอยด่างดำ ริ้วรอยจุดกระต่างๆ รอยดำคล้ำรอบขอบตาจะหมดไป เลือดลมดี ไม่เหนื่อยง่าย อารมณ์แจ่มใส ก็ด้วยเลซิตินซึ่งมีอยู่มากเป็นพิเศษในถั่วเหลือง
น้ำผึ้งก็เป็นยาอายุวัฒนะ
สารอาหารสำคัญๆที่มีอยู่เต็มเปี่ยมในน้ำผึ้งก็คือ โปรตีน วิตามินบี1 บี2 บี5 และบี12 ไบโอติน เหล็ก ทองแดง แมงกานีส ซิลิคอน แคลเซียม โซเดียม โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส กำมะถัน โบรมีน และคลอรีน น้ำผึ้งมีสรรพคุณทางยา ช่วยบำรุงร่างกายให้กระปรี้กระเปร่า แข็งแรง สดชื่น เพิ่มพลัง แก้เบื่ออาหาร บำรุงหัวใจ บำรุงข้อต่างๆ ช่วยให้นอนหลับสบาย น้ำผึ้งจัดเป็นอาหารเสริมที่ดีที่คุณควรสนใจ หมั่นรับประทานเป็นประจำทุกๆ สัปดาห์ก็จะช่วยบำรุงร่างกายให้มีสุขภาพดีอย่างที่คุณพิสูจน์ได้
ตาสว่าง สมองโลดแล่น ด้วยสะระแหน
่ ในอาหารจานยำหรือจานผัดที่มีสะระแหน่โรยมาด้วยนั้นคุณควรจะรับประทานมากๆ เพราะ สะระแหน่ใบเล็กๆ กลิ่นแรงๆ นี่แหละมีคุณค่าสารอาหารไม่ธรรมดาเลยทีเดียว สะระแหน่มีเมนทอลและน้ำมันหอมระเหย จึงช่วยกระตุ้นปลายประสาทผิวหนัง ช่วยขับเหงื่อ ลดคลาย อาการหดเกร็งของกล้ามเนื้อ แก้อาการเป็นหวัดคัดจมูก แก้ร้อนใน บำรุงสมองให้ปลอดโปร่งและช่วยให้ตาสว่าง คึกคักสดชื่น ไม่ง่วงซึม
เป็นสิวต้องใส่ใจสุขภาพทั้งหมด
คนส่วนใหญ่เมื่อเป็นสิวแล้วมักจะสนใจดูแลแก้ไขปัญหาสิวเฉพาะที่ผิวหน้าเท่านั้น ซึ่งความ จริงแล้วสาเหตุที่เกิดสิวมาจากการไม่ดูแลสุขภาพของตัวเองนั้นเอง ถ้าคุณมีพฤติกรรมใดต่อไปนี้ นั่นล่ะคือปัจจัยสำคัญที่นำสิวมาสู่ใบหน้าของคุณ อดอาหารเพื่อลดน้ำหนัก รับประทานอาหารรสหวานจัดหรือมันจัด ติดกาแฟ ชา เหล้า เบียร์ น้ำอัดลม และบุหรี่ รับประทานอาหารที่ปนเปื้อนสารเคมี เช่น ของหมักดอง อาหารกระป๋อง รับประทานอาหารเร่งรีบ ไม่เคี้ยวให้ละเอียดก่อนกลืน ไม่ค่อยรับประทานผักสดๆ ผลไม้สดๆ จนถ่ายไม่เป็นเวลา หรือท้องผูก ดังนั้นหากคุณเลิกนิสัยดังกล่าวนี้แล้วรับประทานแต่ผักสด ผลไม้ อาหารรสไม่หวานจัด เลิกขนม ของ หวาน น้ำอัดลมต่างๆ การรักษาด้วยการล้างหน้าบ่อยๆ คุณจะได้ผลที่น่าพอใจแน่นอน
เรื่องของไข
่ สำหรับคนในวัยหนุ่มสาวและวัยผู้ใหญ่ไม่ควรรับประทานไข่เกิน 2 ฟองต่อ 1 สัปดาห์ เนื่อง จากการรับประทานไข่มากจะทำให้มีคอเลสเตอรอลมากเกินไปในกระแสเลือด แต่ในไข่ก็ยังมีสารอาหารสำคัญที่มีประโยชน์ต่อร่างกายหากรับประทานแต่น้อย คนป่วยที่เพิ่งฟื้นไข้ คนที่ต้องการเรี่ยวแรงกำลังวังชา คนป่วยเป็นโรคโลหิตจาง ล้วนแล้วแต่ต้องการไข่เพื่อ บำรุงสมอง บำรุงร่างกายให้แข็งแรง แม้แต่คนที่ต้องใช้เสียง เมื่อเสียงแหบแห้งเพียงรับประทานไข่ดิบเพียง 1 ฟองก็จะช่วยให้เสียงใส ไม่แหบแห้งได้ในช่วงนั้น ไข่แดงช่วยให้เด็กๆ แข็งแรง โตเร็ว ไข่ขาวพอกหน้าช่วยบำรุงรักษาสิว ลดความมันบนใบหน้าคนหนุ่มสาวอย่างได้ผลดีอีกด้วย
จัดเมนูมันเทศสัปดาห์ละครั้ง
มันเทศต้มเป็นอาหารเสริมสุขภาพที่แสนวิเศษ แต่ถ้าจะให้รับประทานทุกวันคุณคงเบื่อแน่นอน ดังนั้นอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้งที่ควรมีมันเทศอยู่ในมื้อใด มื้อหนึ่ง อาจต้มมันเทศเป็นอาหารว่างหรือต้ม มันเทศผสมในข้าวต้มบ้างก็ได้ การรับประทานมันเทศเป็นประจำจะช่วยบำรุงร่างกายให้แข็งแรง การขับถ่ายเป็นไปอย่างราบรื่น คนที่ผอมแห้งก็สามารถเพิ่มน้ำหนักได้ด้วยการรับประทานมันเทศเป็นประจำ แต่คนที่มีน้ำหนักตัวเกินพอดีควรรับประทานแต่เพียงเล็กน้อย จะได้ไม่แน่นท้องเกินไปนัก
บำรุงเลือดด้วยการกินธาตุเหล็ก
ธาตุเหล็กนั้นจำเป็นต่อสุขภาพของคุณอย่างมาก เพราะถ้าเมื่อใดก็ตามที่คุณปล่อยให้ร่างกาย ขาดสารอาหารสำคัญตัวนี้ร่างกายก็จะไม่สามารถสร้าสร้างเซลล์เม็ดเลือดได้พอเพียง คุณควรจัดเมนูอาหารที่มีธาตุเหล็กในแต่ละมื้อแต่ละวันอย่างสม่ำเสมอ อาหารที่อุดมไปด้วยธาตุเหล็กก็คือ ตับสัตว์ เครื่องในไก่ แครอท ฟักทอง เมล็ดฟักทอง มันฝรั่ง ถั่วเหลือง มะเขือเทศ กะหล่ำปลี บรอคเคอรี่
อาหารต้านความเศร้า
อารมณ์ซึมเศร้า หดหู่ หม่นหมอง สามารถทำให้คลายจางลงไปได้ด้วยการรับประทานอาหาร ที่อุดมไปด้วยเซเลเนียม เช่น หอยนางรม ปลาทูน่า ไก่งวง นม ซึ่งมีกรดโฟลิก เมื่อรับประทานอาหารเหล่านี้แล้วจะช่วยให้คุณมีอารมณ์แจ่มใส ไม่หงุดหงิดฉุนเฉียวง่าย เนื่องจากว่าการขาดกรดโฟลิก สารทริบโตแฟน มีผลให้เกิดความแปรปรวนในอารมณ์และอาการทางจิต ประสาทได้นั่นเอง
ถั่วสลายความเครียด
สภาวะที่แวดล้อมในปัจจุบันนี้ดูเหมือนว่ามีปัจจัยมากมายที่ก่อให้เกิดความเครียดได้ไม่ยาก และความเครียดที่เกิดขึ้นแล้วนั้นไม่ใช่จะทำให้คุณกลายเป็นคนหน้านิ่วคิ้วขมวดและอารมณืบูดจนไม่น่าเข้า ใกล้เท่านั้น แต่ความเครียดมีผลกระทบอย่างจริงจังต่อสุขภาพร่างกายและจิตใจของคุณ นอกจากการออกกำลังกายและการพักผ่อนแล้วการดูแลเรื่องอาหารในช่วงที่รู้สึกเครียดก็ช่วยคลายความกด ดันได้เป็นอย่างดี อาหารที่จะพิชิตความเครียดได้ก็คืออาหารที่มีวิตามินบีสูง และมีแมงกานีสสูง เช่น อะโวคาโด สตรอเบอรี่ ส้ม ถั่วฝักยาว ถั่วเหลือง ถั่วดำ ถั่วลิสง โดยเฉพาะ "ถั่ว" ชนิดต่างๆ คือพระเอกที่จะขจัดปัดเป่าความเครียดให้หมดสิ้นไปได้อย่างง่ายดาย
เนื้อสัตว์ไม่ใช่อาหารจำเป็นของคน
นี่คือความจริงข้อใหม่ที่อาจจะดูขัดแย้งกับสิ่งที่พวกเราได้รับการปลูกฝังมาตั้งแต่เด็ก ว่า โปรตีนคืออาหาร 1 ใน 5 หมู่ที่ร่างกายต้องการ และแหล่งโปรตีนที่ดีคือเนื้อสัตว์ แต่แท้จริงแล้วร่างกายของคนเราต้องการโปรตีน มิใช่ต้องการเนื้อสัตว์ คุณสามารถได้โปรตีนจากแหล่งอื่นที่ไม่ใช่เนื้อสัตว์ใหญ่ เช่น จากผักทุกชนิดที่มีใบเขียวจัด และเนื้อสัตว์ อย่าง ปลา หอย กุ้ง ซึ่งทำให้คุณได้โปรตีนพอเพียงกับความต้องการของร่างกายและดีกว่าเนื้อสัตว์ประเภทเนื้อวัวและเนื้อหมูที่ทำให้ระบบย่อยอาหารต้องทำงานหนักขึ้น และถ้ารับประทานมากเกินไปโปรตีนที่เหลือเป็นส่วนเกินจะถูกเปลี่ยนเป็นไขมันและน้ำตาลเก็บไว้ในร่างกาย มีผลทำให้คุณอ้วนขึ้นนั่นเอง และนอกจากนั้นถ้าคุณรับประทานเนื้อวัวและเนื้อหมูมากๆ กระบวนการย่อยก็ต้องทำงานหนักขึ้นเพราะต้องขับสารพิษหลายตัวที่เกิดจากการย่อยให้ออกไปจากร่างกาย จะทำให้แร่ธาตุต่างๆ อีกหลาย ตัวถูกขับออกมาด้วย น้ำในตัวคุณก็จะระเหยไปมาก มีผลกระทบต่อสุขภาพโดยตรงแน่นอน
กินบะหมี่บ่อยๆ อร่อยแล้วสุขภาพดีแน
่ คนที่ต้องการควบคุมน้ำหนักจนงดรับประทานข้าวเพราะอ้างว่าต้องการงดคาร์โบไฮเดรตที่จะ ทำให้อ้วนได้ไม่แพ้ไขมันนั้นควรอย่างยิ่งที่จะรับประทานอาหารบะหมี่บ้าง เพราะบะหมี่เป็นแหล่งคาร์โบไฮเดรตที่ยอดเยี่ยมพอๆ กับก๋วยเตี๋ยว สปาเกตตี มะกะโรนี และโรตี คุณสามารถรับประทานได้บ่อยๆ โดยไม่ต้องกลัวว่าจะอ้วนเพราะบะหมี่เป็นคาร์โบไฮเดรตละเอียด มีคุณสมบัติย่อยง่ายกว่าคาร์โบไฮเดรตชนิดธรรมดา
กลูโคส เกลือแร่ เพิ่มพลังงานจริงหรือ
คุณเคยพบว่ามีโฆษณาเครื่องดื่มประเภทกลูโคสหรือเกลือแร่มากมายหลายยี่ห้อที่เน้นสรรถคุณ ว่าให้พลังงาน เหมาะสำหรับผู้ที่ร่างกายสูญเสียเกลือและโพแทสเซียม ไปกับเหงื่อในขณะที่ออกแรงมากๆ หรือพวกนักกีฬา เป็นต้น แต่ความจริงแล้วถ้าคุณเล่นกีฬามาเหนื่อยๆ หรือออกกำลังไปมากๆ จนคิดว่าร่างกายสูญเสียเกลือไปกับเหงื่อ เครื่องดื่มที่ดีที่สุดสำหรับนาทีนั้นก็คือน้ำเปล่า จริงอยู่ที่ว่าร่างกายต้องการโซเดียม แต่เมื่อเหงื่อท่วมตัวในร่างกายก็มิได้อยู่ในภาวะขาดเกลือทันทีทันใด คุณต้องดื่มน้ำมากๆ ชดเชยเหงื่อที่หลั่งรินออกไปมาก น้ำจะเข้าสู่กระแสเลือดได้เร็วกว่าเครื่องดื่มเกลือแร่หรือกลูโคสด้วยซ้ำ และการดื่มน้ำเกลือเข้าไปทันทียิ่งไม่ถูกต้องเพราะร่างกายจะดึงน้ำไปจากกล้ามเนื้อเพื่อไปกรองเกลือทำให้กล้ามเนื้อขาดน้ำกะทันหันและไตของคุณอาจมีปัญหาเมื่อมีปริมาณเกลือในเลือดสูงเพราะน้ำระเหยภายในนั่นเอง
หอยแมลงภู่ชูกำลังตัวจริง
ถ้าจะพูดถึง "ไข่" ที่ยอมรับกันมานานว่าเป็นตัวเอกในการบำรุงพลังได้อย่างวิเศษแล้วนั้นที่แท้ ยังไม่ถูกต้องนัก หอยแมลงภู่ต่างหากที่เป็นตัวจริงสำหรับอาหารซึ่งมีสรรพคุณช่วยสร้างเสริมพละกำลังให้กับสุขภาพร่างกายของคุณได้อย่างเต็มที่มากกว่าไข่ เพราะไข่ทำให้ร่างกายมีคอเลสเตอรอลมากเกินพอดีถ้ารับประทานมากๆ แต่สำหรับหอยแมลงภู่ยิ่งรับประทานมากก็ยิ่งดี ไม่ว่าจะเป็นหอยแมลงภู่สดหรือแห้งก็ล้วนมีคุณค่าอาหารสูงกว่าเนื้อวัวและเนื้อหมู่ที่ดูจะมีบทบาทกับคนเรามากกว่าหอยแมลงภู่ ถ้าคุณรับประทานหอยแมลงภู่สม่ำเสมอร่างกายจะมีพลังแข็งแรงอย่างเห็นได้ชัด ระบบการไหลเวียนของเลือดดีเยี่ยม บำรุงเลือดลม รักษาความร้อนในร่างกายให้สมดุล และพิชิตอาการเฉื่อยชาอ่อนเปลี้ยเพลียแรงได้อย่างน่าอัศจรรย์
เบื่ออาหาร จิตใจหม่นหมอง ต้องลองกินลำไย
เด็กๆ มักถูกห้ามว่าอย่ารับประทานลำไยมากเกินไป จำทำให้ร้อนในและไม่สบายได้ แต่ถ้าเมือ ใดก็ตามที่คุณรู้สึกว่าร่างกายไม่สดชื่น ความคิดอ่านตื้อๆ ตันๆ ไม่คึกคัก อ่อนเพลีย เลือดลมไม่ดี จิตใจหม่นๆ มัวๆ อารมณ์แปรปรวนง่าย เมื่อนั้นแหละที่คุณควรสนใจลำไยเป็นพิเศษ คุณอาจลองหาซื้อลำไยชนิดตากแห้งนำมาปรุงร่วมกับเมนูจานใดจานหนึ่งก็ได้ เป็นต้นว่า ลำไยตุ๋นรวมกับไข่ตุ๋น ซอยลำไยแห้งลงไปในผัดหรือในแกงบ้างก็ไม่เลว ลำไยมีน้ำตาลที่เป็นเมนูโปรดของ "สมอง" และเป็นน้ำตาลที่ไม่มีพิษภัยอย่างน้ำตาลทรายขาว คุณจะรู้สึกอยากรับประทานอาหารมากขึ้น เจริญอาหาร มีกำลังวังชา ความคิดแล่นราบรื่น สมองปลอดโปร่ง อารมณ์ดี ลำไยยังช่วยบำรุงม้าม บำบัดโรคกระเพาะ บำรุงหัวใจ บำรุงการไหลเวียนของเลือด บำรุงระบบประสาท ทำให้ไม่เครียดง่าย
ขิงยิ่งแก่ยิ่งเป็นยาดี แก้คลื่นไส้ รักษาท้องเฟ้อ
ขิงแก่ปรุงเป็นเมนูไก่ผัดขิงหรือขิงแก่ซอยใส่โจ๊กและอาหารจานอื่นๆ นั้นมักถูกเขี่ยทิ้งไปอย่าง น่าเสียดาย คุณควรฝึกเด็กๆ และแนะนำผู้ใหญ่รอบข้าง (รวมทั้งตัวคุณเอง) ให้หมั่นรับประทานขิงบ้าง เพราะขิงมี สรรพคุณทางยา จะช่วยบำบัดเยียวยาอาการสะอึก อาการท้องเฟ้อ ท้องอืด แน่นท้อง อาการคลื่นไส้พะอืดพะอมอยากอาเจียน ขิงช่วยขับลมและขับความเย็นชื้นในร่างกาย แม้แต่อาการคัดจมูกและเป็นไข้หวัดเพียงรับประทานขิงก็ทุเลาและหายได้ทันใจ ควรเติมขิงซอยในอาหารจานใดก็ได้อย่างสม่ำเสมอเพื่อรักษาสุขภาพ
ฟื้นฟูร่างกายด้วยปลาตะเพียน
สารอาหารในปลาตะเพียนจะช่วยเสริมสร้างพลังงานแก่ร่างกายของคนที่เพิ่งฟื้นไข้ได้ดีหรือถ้า คุณรู้สึกอ่อนเพลียง่าย ไร้เรี่ยวแรงเจ็บป่วยบ่อยๆ ร่างกายอ่อนแอ คุณควรรับประทานปลาตะเพียนเพื่อฟื้นฟูสภาพร่างกายให้มีพลังและสดชื่นขึ้นอย่างทันอกทันใจ ปลาตะเพียนยังช่วยแก้ร้อนในได้ดี บำรุงม้าม ช่วยขับปัสสาวะ แม้รับประทานทุกๆ วันก็ไม่ทำให้ร่างกาย "ร้อน" เกินไป เหมือนอาหารบำรุงบางชนิด เพราะปลาตะเพียนมีฤทธิ์ปานกลาง อาการไอ เจ็บคอ กระหายน้ำบ่อยๆ ก็จะหายไปถ้ารับประทานปลาตะเพียนเป็นประจำ
ปลาแห้งตัวเล็กตัวน้อยให้วิตามิน D แสนด
ี คุณทราบอยู่แล้วว่าวิตามินดีนั้นช่วยดูแลกระดูกให้แข็งแรง ช่วยดูดซึมแคลเซียมและ ฟอสฟอรัสจากกระแสเลือดสู่กระดูก ช่วยให้เด็กๆ เติบโตเร็ว แข็งแรง แล้วคุณทราบไหมว่าปลาแห้งตัวเล็กๆ น้อยๆ นั่นแหละคือแหล่งวิตามินดีที่ดีเยี่ยมเลยทีเดียว นอกจากปลาตัวเล็กตัวน้อยแล้วแหล่งวิตามินดีอื่นๆ ยังมีอีกมาก เช่น ปลาซาร์ดีน ปลาซาบะ ปลากระป๋อง ปลาทูน่า ทอดมันปลา ลูกชิ้นปลา เห็ดหอม ตับ ไข่แดง นม เนยสด เป็นต้น
หมั่นดื่มน้ำมะนาว กินสตรอเบอรี่ มะเขือเทศ ถ้ามักใช้ยาแก้ปวดเป็นประจำ
เมื่อปวดหัว ปวดฟัน ตัวร้อนเป็นไข้ เป็นหวัด คนเรามักสะดวกในการซื้อหายาจากร้านขาย ยาใกล้บ้านมารับประทานเองโดยไม่ต้องไปพบแพทย์ เพราะรับประทานยาแอสไพรินเพียง 1-2 วันก็สามารถหายป่วยได้แล้ว แต่การใช้ยาแอสไพรินบ่อยๆ ครั้งหรือใช้ต่อเนื่องเป็นเวลานาน ตัวยาจะไปต้านการดูดซึมวิตามิน ทำให้วิตามินต่างๆ โดยเฉพาะวิตามินซีถูกขับไสไล่ส่งออกจากร่างกายของคุณโดยทางปัสสาวะ ฉะนั้นช่วงใดที่คุณต้องใช้ยาแก้ไข้ แก้ปวดต่างๆ แล้วก็ควรเติมวิตามินซีให้กับร่างกายมากเป็นพิเศษ วิตามินซีมีอยู่ในผักสดและผลไม้ทุกชนิด หรือถ้าคุณหมั่นดื่มน้ำมะนาวบ่อยๆ (ไม่ต้องเติมน้ำตาลมาก) รับประทานสตรอเบอรี่และมะเขือเทศสดๆ เป็นประจำ ร่างกายก็จะได้วิตามินซีอย่างพอเพียงแน่นอน
ต้องกินอะไรจึงจะได้วิตามินเอ
วิตามินเออยู่ในเครื่องในสัตว์ ปลาไหล นม เนย น้ำมันตับปลา ส่วนวิตามินเอในรูปแคโรทีน อยู่ในพืชผักสีเหลืองหรือสีส้ม เช่น แครอท แตงโม แอปริคอท ส้ม ฟัก ทอง ข้าวโพด มันฝรั่ง มันเทศ น้ำเต้า ในพืชผักสีเขียวและสีขาวก็มีบ้าง เช่น สาหร่ายทะเล ดอกกะหล่ำ แตงกวา หอมหัวใหญ่ เด็กๆ ต้องการวิตามินเอเพื่อร่างกายที่เจริญเติบโต โครงกระดูกแข็งแรงเจริญอาหาร เม็ดเลือดแดงได้รับการสร้างเสริม ฟันมีสารเคลือบ หนุ่มสาวและผู้ใหญ่ก็ต้องการวิตามินเอมาทำหน้าที่สำคัญๆ มากมาย ช่วยดูแลเซลล์ผิวหนังและเยื่อบุ ช่วยให้ผิวสวย ตาดี ผมงาม เล็บแข็งแรง
บำรุงประสาทด้วยไทอามีน
ไทอามีนก็คือวิตามินบี1 ซึ่งมีหน้าที่ช่วยในกระบวนการเปลี่ยนแป้งหรือน้ำตาลให้เป็นพลังงาน ถ้าร่างกายขาดวิตามินบี1 เมื่อใดการเปลี่ยนแปลงนี้ก็จะติดขัดบกพร่อง มีผลต่อร่างกายมากมายดังนี้ ระบบประสาทผิดปกติ ทำให้ปวดศีรษะบ่อยๆ ประสาทอ่อน หงุดหงิดง่าย อารมณ์เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย ท้องอืด ท้องผูก เบื่ออาหาร น้ำหนักลดหรือเพิ่มเกินปกติ หอบง่าย เหนื่อยง่าย เป็นเหน็บชา พูดติดอ่าง สายตาเสื่อม หัวใจทำงานเสื่อมลง ฯลฯ แต่ถ้าร่างกายได้รับวิตามินบี1 หรือไทอามีนเพียงพอความสดชื่นกระฉับกระเฉงก็จะเกิดขึ้น การรับประทานของหวานมากๆ ก็ทำให้ไทอามีนยิ่งลดน้อยลง อาหารที่มีวิตามินบี1 คือ ข้าวกล้อง ข้าวสาลี ข้าวซ้อมมือ ตับ เต้าหู้ ถั่วหมัก ถั่วแระ รำข้าว งา กระเทียม
ตาแดง ปากเป็นแผล เฉื่อยชา ต้องถามหาไรโบฟลาวิน
ความจริงแล้วไรโบฟลาวินที่คุณต้องการก็คือวิตามินบี2 นั่นเอง หน้าที่ของวิตามินบี2 คือการช่วยสังเคราะห์คาร์โบไฮเดรต เปลี่ยนน้ำตาลและแป้งให้กลายเป็นพลังงาน สร้างเอนไซม์ที่จำเป็นช่วยในการรับออกซิเจนเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจ ซ่อมแซมเนื้อเยื่อ เมื่อคุณมีอาการตาแฉะ ตาแดง หรือลิ้นเป็นแผล มุมปากเป็นแผล ริมฝีปากอักเสบ นั่นล่ะคือสัญญาณของการขาดไรโบฟลาวิน อาการเฉื่อยชา เกียจคร้าน ไม่มีแรง ตาไวต่อแสง ตาพร่า แสบตา ปากคล้ำ มุมปากด่างขาว ง่วงบ่อยๆ ตัวสั่นๆ เดินเหินไม่คล่อง ความดันโลหิตสูง ตัวเล็กแคระไม่โต (กลุ่มเด็กๆ) อาการเหล่านี้จะเกิดขึ้นเมื่อร่างกายขาดสารสำคัญนี้ ซึ่งคุณจะต้องรีบรับประทานอาหารที่มีไรโบฟลาวินให้พอเพียง เช่น ไข่แดง นม นมแม่(สำหรับเด็ก) ตับวัว ตับหมู เนยแข็ง ไข่ปลา ยีสต์ เนื้อวัว ไก่ ถั่ว มันฝรั่ง
ฟุ้งซ่าน หลับยาก พฤติกรรมสับสน แก้ไขได้ด้วยการกินอาหารบางกลุ่ม
คุณควรรับประทานอาหารที่เป็นแหล่งวิตามินบี3 คือ ปลา นม เมล็ดข้าวสาลี ผักใบเขียว เนื้อสัตว์ ถ้าปล่อยให้ร่างกายขาดวิตามินบี3 โดยเฉพาะท่านที่ดื่มเหล้ามากๆ จะยิ่งต้องการวิตามินบี3 ผลร้ายที่เกิดขึ้นเมื่อขาดวิตามินบี3 มีมากมาย เป็นต้นว่าลิ้นอักเสบ มีกลิ่นปากแรง กระพุ้งแก้มเปื่อย เป็น โรคลำไส้ ขับถ่ายยาก ง่วงซึม คลื่นไส้วิงเวียน ปวดศีรษะบ่อยๆ เครียด วิตกกังวล ฟุ้งซ่านจนนอนไม่หลับ อยากหัวเราะหรืออยากร้องไห้โดยไร้สาเหตุ พฤติกรรมวุ่นวายแปรปรวน สับสนหดหู่ ก้าวร้าว
รับประทานถั่วต่างๆ เพื่อเยียวยาผิวหยาบกร้าน
การที่ผิวพรรณหยาบกร้านไม่นวลเนียนสดใสนั้นก็เป็นสาเหตุหนึ่งของการขาดวิตามินบี6 นอกจากผิวแห้งหยาบกร้านแล้วอาจมีอาการอื่นๆ คือเป็นแผลที่ลิ้น เป็นโรคโลหิตจาง โรคลมชัก โรคเศร้า ซึม หอบหืด เป็นนิ่วในไต อาหารที่มีวิตามินบี6 จะช่วยบำรุงระบบประสาท บำรุงสมอง ป้องกันตะคริว คุณสามารถรับประทานวิตามินบี6 ได้จากเนื้อไก่ เนื้อปลา เนื้อหมู ตับ ข้าวโพด แฮม เนื้อวัว กล้วย ลูกเกด ลูกพรุน โดยเฉพาะถั่วต่างๆ และถั่วแขก
น้ำมันพืชก็มีวิตามินเหมือนกัน
ในการปรุงอาหารจานผัดๆ ทอดๆ น้ำมันพืชเป็นปัจจัยสำคัญที่ขาดไม่ได้ แต่คนที่สนใจเรื่อง การลดระดับคอเลสเตอรอลในเส้นเลือด การลดหรือควบคุมน้ำหนัก ก็มักจะงดเว้นอาหารผัดๆ ทอดๆ เพื่อเลี่ยงไขมัน ซึ่งนั่นเป็นการดูแลสุขภาพที่ถูกต้อง แต่ถ้าคุณจะรับประทานอาหารจานผัดจานทอดบ้างก็ไม่ใช่เรื่องน่ากลัว เพราะในน้ำมันพืชนั้นเป็นแหล่ง วิตามินอีที่ดีเยี่ยม วิตามินอีช่วยบำรุงกล้ามเนื้อหัวใจ ช่วยดึงประโยชน์จากไขมันมาใช้กับต่อมต่างๆ คุ้มครองปกป้องมิให้วิตามินต่างๆ สูญสลาย ดูแลมิให้เลือดจับเป็นก้อน ช่วยสร้างเสริมผิวหนังใหม่ ชะลอความชราและช่วยปรับอุณหภูมิในร่างกาย น้ำมันพืชที่คุณจะใช้ประกอบอาหารนั้น คุณควรใช้เพียงเล็กน้อยในการผัดหรือทอดอาหาร นอกจากในน้ำมันพืชแล้ววิตามินอีพอมีอยู่บ้างไม่มากในข้าวโอ๊ต ผักกาดหอม มะเขือเทศ แครอท ไข่แดง ไข่ปลา ถั่วต่างๆ และเมล็ดทานตะวัน
แพ้ท้องรุนแรงนึกถึงวิตามินบี6
ว่าที่คุณแม่คนใหม่เมื่อตั้งครรภ์แล้วควรรับประทานอาหารที่อุดมด้วยวิตามินบี6 เพื่อป้องกัน อาการแพ้ท้อง หรือถ้าเกิดมีอาการแพ้ท้องอย่างรุนแรงแล้วการรับประทานวิตามินบี6 มากๆ ก็จะช่วยลดอาการนั้นให้ทุเลาเบาบางลงไปได้อย่างดี นอกจากช่วยเยียวยารักษาอาการแพ้ท้องแล้วยังช่วยดูแลสุขภาพของคุณแม่และลูกน้องในครรภ์อีกด้วย อาหารที่เป็นแหล่งวิตามินบี6 ได้แก่ ถั่วต่างๆ ถั่วเหลือง ไข่ นม ข้าวโพด ข้าวสาลี ตับสัตว์
สิงห์อมควันต้องการวิตามินซีมากเป็นพิเศษ
การที่คุณสูบบุหรี่มากๆ นั้นทำให้วิตามินซีลดลง บุหรี่เพียง 1 มวน สามารถทำลายวิตามินซี ได้ถึง 25 มิลลิกรัม ลองคิดดูว่าถ้าวันหนึ่งๆ คุณสูบบุหรี่ 10 มวนหรือ 20 มวนวิตามินซีจะถูกทำลายไปกี่ร้อยมิลลิกรัม หากคุณยังไม่สามารถเลิกบุหรี่ได้ก็ควรรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินซีเพื่อให้ร่างกายได้วิตามินซี อย่างพอเพียง ผักสดๆ ผลไม้สดๆ ล้วนเป็นแหล่งวิตามินซีที่ดีเยี่ยม มะเขือเทศ สตรอเบอรี่ มะนาว ส้ม พริกหยวก ผักกะหล่ำปลี ฯลฯ เหล่านี้ควรรับประทานสดๆ จะเกิดผลดีต่อสุขภาพแน่นอน
นักดื่มอย่าลืมรับประทานตับ
ในตับนั้นมีวิตามินและแร่ธาตุสำคัญๆ มากมายมหาศาล คุณสามารถรับประทานตับสัตว์ได้ทุก มื้อหรือทุกวันโดยไม่ได้รับพิษภัยใดๆ จากการรับประทานมากๆ โดยเฉพาะถ้าคุณชอบดื่มเหล้า ดื่มเบียร์ หรือไวน์ ร่างกายของคุณยิ่งต้องการวิตามินบี6 และวิตามินบี1 เพื่อช่วยลดไขมันในตับ ช่วยทำหน้าที่ดูดซึมโปรตีนและไขมัน และช่วยดูแลระบบประสาท ตับมีวิตามินบี6 และบี1 ส่วนแหล่งอาหารอื่นๆ ที่มีวิตามิน 2 ชนิดนี้ได้แก่ รำข้าว ถั่วหมัก ถั่วแระ เต้าหู้ กระเทียม สาหร่ายทะเล งา กระเทียม ปลา นม ไข่ ข้าวโพด
นักกินอาหารจานด่วนควรเสริมด้วยอะไร
สภาพสังคมปัจจุบันอาจไม่อำนวยให้คุณปรุงอาหารรับประทานเองที่บ้านทุกๆ วัน ทุกๆ มื้อได้ ดังนั้นการฝากท้องไว้กับร้านอาหารจึงเป็นกิจวัตรที่คนส่วนใหญ่ปฏิบัติ แต่อาหารจานด่วนจานเดียวที่คุณสั่งมารับประทานหรืออาหารขยะประเภทเบอร์เกอร์ต่างๆ มิได้มีคุณค่าสาร อาหารพอเพียงแก่ร่างกายอย่างแน่นอน และเมื่อขาดสารอาหารอาการผิดปกติต่างๆ ก็จะเกิดขึ้นกับร่างกายโดยที่คุณอาจไม่คิดว่าเป็นผลจากการขาดสารอาหารซึ่งเป็นคำพูดที่ฟังดูแล้วไม่น่ากลัวแต่อย่างใด แม้แต่อาการเล็กๆ น้อยๆ เป็นต้นว่าผิวหยาบกร้าน ผมร่วง อารมณ์หงุดหงิดง่าย เฉื่อยชา ฯลฯ เหล่านี้ก็เกิดขึ้นเพราะร่างกายขาดสารอาหารบางอย่าง
ข้าวโพดต้มไม่ใช่แค่ของว่างธรรมดา
คนไทยเรานิยมรับประทานข้าวโพดต้มเป็นของว่าง รับประทานเล่นๆ เพื่อความเอร็ดอร่อย จากตรอกซอกซอยจะพบว่ามีข้าวโพดต้มควันกรุ่นหอมฉุยขายอยู่ทั่วไป หาซื้อได้ง่าย แต่หลายๆ ท่านคงยอมรับว่าห่างหายจากการซื้อข้าวโพดต้มมารับประทานนานพอสมควรแล้วเหมือนกัน ข้าวโพดต้มนั้นมีวิตามินและแร่ธาตุสำคัญมากมายที่ร่างกายต้องการ ข้าวโพดต้มโดยเกลือ ข้าวโพดต้มโรยน้ำตาล เมื่อรับประทานอย่างสม่ำเสมอจะช่วยขับปัสสาวะ ลดอาการบวมน้ำ ช่วยขยายหลอดเลือด ปรับระดับคอเลสเตอรอลให้มีไม่มากเกินพอดีในร่างกาย ลดภาวะหลอดเลือดแข็งตัว ทำให้คุณไม่ป่วยเป็นโรคความดันโลหิตสูง ช่วยต้านโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด และยังช่วยป้องกันมะเร็งได้ดีเป็นพิเศษ
ปรนนิบัติหนังศีรษะเมื่อผมร่วง
สาเหตุของผมร่วงมีมากมายเหลือเกิน การที่เส้นผมของคุณหลุดร่วงมากผิดปกติแล้วคุณไปหา ซื้อครีมบำรุงหรือยาปลูกผมมารักษาเองนั้นอาจไม่ใช่วิธีที่ได้ผล เพราะอาจเป็นการรักษาไม่ตรงกับสาเหตุที่แท้จริง การอบผม ไดร์ผม เป็นประจำ การกัดสีผม ย้อมสีผม การว่ายน้ำทุกๆ วัน จนสารเคมีเกาะจับทำลายสภาพผม ความเครียด กรรมพันธุ์ โรคบางชนิด การติดเชื้อ การใช้ยาบางชนิดเป็นประจำ ต่อมไร้ท่อผิดปกติ ช่วงตั้งครรภ์ ฯลฯ ทั้งหมดนี้เป็นสาเหตุที่ทำให้ผมร่วงมากๆ ได้ทั้งนั้น คุณควรปรึกษาแพทย์โดยตรงจะดีกว่าคาดเดาเอาเอง เพราะบางทีคุณอาจขาดสารอาหารบางชนิดผมจึงร่วง ซึ่งการบำรุงด้วยครีมแพงๆ นับ 10 ขวดก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้อย่างแน่นอน เมื่อคุณมีอาการผิดปกติ ผมหลุดร่วงมากก็ควรหมั่นเอาอกเอาใจหนังศีรษะด้วยการนวดคลึงให้ทั่วๆ ศีรษะ การนวดจะทำให้เลือดไหลเวียนดี ณ บริเวณหนังศีรษะ การนวดจะช่วยกระตุ้นเลือดให้ไปหล่อเลี้ยงเส้นผมได้อย่างเต็มที่และทั่วถึง แต่คุณจะต้องนวดๆ คลึงๆ อย่างเบามือ การนวดแรงๆ ไม่ได้ให้ประโยชน์ใดเลย เช่นเดียวกับการหวีผมแรงๆ ก็จะทำให้เส้นผมขาดง่าย หนังศีรษะ เป็นแผล และเกิดรังแคได้ง่าย คุณควรหมั่นนวดคลึงหนังศีรษะและใช้หวีนุ่มๆ หวีผมช้าๆ นานๆ โดยเฉพาะบริเวณหนังศีรษะควรใช้แปรงหวีผมนวดคลึงด้วย ไม่ใช่หวีแค่เส้นผม ควรหวีตั้งแต่โคนผมที่หนังศีรษะลงไปจนจรดปลายผม การนวดหนังศีรษะเป็นการกระตุ้นให้เลือดไหลเวียนทั่วหนังศีรษะเพื่อรักษาสุขภาพของเส้นผม แต่ไม่ใช่เป็นการกระตุ้นที่จะทำให้เส้นผมงอกงามได้ทันใจแต่อย่างไร
ร้อนนักต้องฟักเขียว
คุณสามารถดับร้อนในร่างกายได้ด้วยการรับประทานฟักเขียว จะนำมาต้มจืด ตุ๋น หรือผัด ก็ แล้วแต่ความพอใจ ฟักเขียวมีคุณสมบัติที่ค่อนข้างเย็น เมื่อรับประทานแล้วคุณจะหายจากอาการร้อนใน เพราะฟักเขียวจะช่วยดับความกระหาย ช่วยให้คอชุ่มชื้น ระบายความร้อน แก้ท้องผูก ลดอาการบวมน้ำ เมืองไทยเราอากาศร้อนอบอ้าว ถ้าคุณรับประทานฟักเขียวอย่างสม่ำเสมอคุณจะไม่ค่อยเป็นแผลในปากและไม่ต้องเลียริมฝีปากบ่อยๆ เมื่อปากแห้ง
อันตรายจากท้องผูก
อาการท้องผูกนั้นโดยมากเกิดขึ้นกับคุณผู้หญิงที่ลดน้ำหนักอย่างไม่ถูกต้อง มีการอดอาหาร ทำ ให้ไม่มีอะไรจะถูกขับถ่ายออกมา บางท่านไม่ได้เล่นกีฬา ไม่เคยออกกำลังกาย บางท่านไม่รับประทานอาหารที่มีกากและเส้นใย มีผลทำให้ลำไส้ไม่ได้ออกกำลังจึงไม่มีประสิทธิภาพในการทำงาน ด้วยเหตุนี้คุณผู้ชายจึงเป็นน้อยกว่าผู้หญิง เมื่อท้องผูกร่างกายก็ไม่ได้ขับถ่ายของเสียออกจากร่างกาย สุขภาพของคุณจะทรุดลงจนผิวพรรณแห้ง หยาบกร้าน หรือผิวมีแต่จุดด่างดำ รอยตุ่ม รอยผื่นต่างๆ คุณควรฝึกการขับถ่ายให้เป็นเวลา อย่ากลั้นไว้นาน หรือไม่ก็ควรสนใจกับการขับถ่ายหรือการกินอาหารอุดมเส้นใยเพื่อช่วยในการขับถ่าย
อาบน้ำอุ่นกระตุ้นระบบหายใจ
ถ้าบ้านของคุณมีเครื่องทำน้ำอุ่นอยู่แล้วการอาบน้ำอุ่นอย่างสม่ำเสมอก็คงสามารถทำได้สะดวก แต่สำหรับบ้านที่ไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่น ก็สามารถที่จะต้มน้ำร้อนอาบบ้างอย่างน้อย 2 สัปดาห์ต่อ 1 ครั้งก็คงไม่วุ่นวายจนเกินไปนัก การอาบน้ำอุ่นช่วยกระตุ้นระบบหายใจให้ทำงานมีประสิทธิภาพขึ้น ดังนั้นจึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับท่านที่มีสุขภาพหัวใจไม่แข็งแรงนัก อุณหภูมิของน้ำมีความอุ่นพอเหมาะ เช่น 45 องศา ยังจะช่วยเยียวยาอาการของโรคกระเพาะอาหารได้ดีอีกด้วย ทำให้ร่างกายสดชื่น ความดันโลหิตเป็นปกติ นอนหลับสบาย แต่หากอาบน้ำที่ร้อนมากๆ จะยิ่งทำให้ร่างกายของคุณอ่อนเพลียมากขึ้น
คอนแท็กเลนส์ต้องสะอาดที่สุด
คนสายตาสั้นที่ไม่ชอบการสวมแว่นเสริมบุคลิก แต่รู้สึกสะดวกสบายกับการใส่คอนแท็กเลนส์ มากกว่า ก็ควรจะยึดถือในเรื่องความสะอาดอย่างเคร่งครัดที่สุด คอนแท็กเลนส์ชั่วคราวก็ใช้ได้สะดวกสบายดี แต่คุณก็ต้องหมั่นล้างด้วยน้ำยาทำความสะอาดเลนส์เช่นเดียวกับชนิดถาวร เพื่อขจัดคราบไขมันและเศษละอองธุลีต่างๆ ที่ตาเปล่าของคุณอาจมองไม่เห็น ปัจจุบันมีคอนแท็กเลนส์ชนิดใส่นอนได้ แต่โดยหลักความจริงแล้วคุณไม่ควรจะใส่ในขณะนอนหลับ และอย่าลืมว่าคุณจะต้องล้างมือฟอกสบู่ให้สะอาดทุกๆ ครั้งก่อนและหลังที่จะสัมผัสคอนแท็กเลนส์
ดวงตาก็เมื่อยล้าเป็นเหมือนกัน
คุณเคยรู้สึกเมื่อยมือหรือปวดหลัง ปวดเอว แต่อาจไม่เคยรู้สึกเมื่อยดวงตาอย่างจริงจัง เพราะ ดวงตาเป็นอวัยวะที่เสมือนมิได้ต้องทำงานหนักนักๆ ทั้งๆ ที่จริงแล้วดวงตาคู่นี้ของคุณทำงานหนักกว่าอวัยวะบางส่วนเสียอีก แม้คุณจะไม่รู้สึกเมื่อยตานักแต่เมื่อใช้สายตามากๆ ต่อเนื่องกัน 2-3 ชั่วโมงก็ควรพักคราวหนึ่งด้วยการบริหารดวงตา วิธีง่ายๆ ในการบริหารดวงตาก็คือ วางศีรษะตรงๆ กลอกตาไปในลักษณะรูปวงกลมๆ ซ้ำๆ จากตรงไปทางขวา ลงข้างล่างก่อนที่จะวนไปทางซ้าย เหลือบมองขึ้นข้างบน แล้ววนกลับทางขวา ทำสลับข้างกันอีกครั้ง แล้วก็ทำดังเดิมสลับกันอีก 1 ชุด การบริหารดวงตาเช่นนี้วันละ 2 ครั้งทุกวันทำให้ดวงตาได้รับการผ่อนคลายดีที่สุด
กลิ่นหอมเพื่อสุขภาพ
ในบ้านของคุณนั้นหากมีกลิ่นอับๆ ก็อาจมีผลต่ออารมณ์ของคุณได้อย่างที่คุณอาจไม่รู้ตัว ความหอมนั้นมีผลดีต่ออารมณ์ของคนเราอย่างจริงแท้ ในปัจจุบันจึงมีน้ำมันหอมระเหยหลากกลิ่นหลาย สไตล์เพื่อสุขภาพโดยตรง ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันหอมระเหยชนิดที่ผสมกับน้ำอาบ ชนิดที่ทานวดทั่วร่าง และชนิดที่ต้องจุดเทียนอังให้ตัวน้ำมันระเหยส่งกลิ่นหอมอบอวล แต่ละกลิ่นนั้นมีคุณสมบัติแปลกแยกแตกต่างกันออกไป เป็นต้นว่ากระตุ้นระบบประสาทให้คึกคักกระฉับกระเฉง คลายเครียดหรือช่วยให้หลับสบายเป็นต้น ถ้าคุณไม่ชอบกลิ่นหอมจากน้ำมันหอมระเหยเหล่านี้ก็อาจใช้สำลีชุบน้ำหอมเล็กน้อยแล้วนำไปวางข้างหมอน ในตู้เสื้อผ้า เพื่อให้มีกลิ่นหอมเย็นๆ ทุกมุมในบ้าน สร้างความรื่นรมย์ให้สุขภาพจิตใจได้เป็นอย่างดี
โรคกระเพาะอาหารนั้นมีอาการปวดท้องและแสบกระเพาะซึ่งเป็นเรื่องแสนทุกข์ทรมานอย่าง ยิ่งสำหรับผู้ป่วยเป็นโรคกระเพาะอาหาร วิธีง่ายๆ ที่คุณสามารถบำบัดเยียวยาอาการปวดแสบนั้นให้หายไปได้ก็คือ รับประทานอาหารแต่ละมื้อแต่ละวันเพียงเล็กน้อยพออิ่ม อย่ารับประทานมากๆ เพียงเพื่อความอร่อยเท่านั้น โดยเฉพาะอาหารเปรี้ยวจัด เค็มจัด เผ็ดจัด ควรงดเด็ดขาด การรับประทานกล้วยกับน้ำผึ้งหรือรับประทานเนยถั่วก็เป็นเมนูพิเศษที่ดีสำหรับป้องกันอาการปวดแสบหรือแสบเกี่ยวกับแผลในกระเพาะ แต่ไม่จำเป็นต้องรับประทานมากๆ เพียงครั้งคราวก็พอแล้ว หัวใจสำคัญอยู่ที่การรับประทานอาหารน้อยๆ เท่านั้นเอง และมีอีกประการหนึ่งที่ทำให้เกิดอาการแสบกระเพาะได้ด้วยเช่นกัน นั่นก็คือการสูบบุหรี่ ซึ่งคุณควรเลิกทันทีตั้งแต่เริ่มเป็นโรคกระเพาะ
คุณแม่คนใหม่ไม่ควรแตะต้องบุหรี่และแอลกอฮอล
์ เมื่อคุณผู้หญิงตั้งครรภ์แล้ว การเตรียมตัวเป็นคุณแม่คนใหม่ที่ควรกระทำเป็นอันดับแรกก็คือ เลิกสูบบุหรี่ และเลิกดื่มเหล้า เบียร์ ไวน์ เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ทุกชนิด คุณรู้ไหมว่าลูกน้องที่เกิดมาจากคุณแม่ผู้สูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์นั้นจะมีน้ำหนักตัวที่น้อยกว่าปกติ นอก จากนั้นยังมีผลกระทบถึงพฤติกรรมในเวลาต่อมา เช่น จะเป็นเด็กที่ตื่นตกใจง่าย เวลาร้องไห้ก็จะมีเสียงสั่นและแหลม การขยับแขนขาค่อนข้างรุนแรงกว่าในระดับปกติ
กินวิตามินซี ห่างไกลอาการเลือดออกตามไรฟัน
ถ้าช่วงใดที่คุณพบว่ามีเลือดออกตามไรฟันในขณะแปรงฟัน ตอนเช้าหรือก่อนนอน หรือบาง ครั้งก็มีเลือดออกมาตามไรฟันทั้งๆ ที่ยังไม่ได้อยู่ในช่วงแปรงฟัน คุณจะต้องตระหนักทันทีว่าร่างกายขาดวิตามินซีแล้วในช่วงนั้น การเติมวิตามินซีให้ร่างกายอย่างพอเพียงนั้นก่อนอื่นคุณต้องรู้ว่าคนเราต้องการวิตามินซีมากน้อยเท่าใดในแต่ ละวัน สำหรับวัยผู้ใหญ่ควรได้วิตามินซีวันละ 40 มิลลิกรัม เด็กๆ ต้องการวิตามินซีประมาณ 30 มิลลิกรัม คนเราจะต้องกินอาหารที่มีวิตามินซีให้พอเพียงทุกๆ วัน เพราะวิตามินซีจะไม่ได้ถูกร่างกายเก็บสะสมไว้ แต่จะขับถ่ายออกมาทางปัสสาวะ ถ้าคนเรากินวิตามินซีมากเกินกว่าที่ร่างกายจะนำไปใช้ ดังนั้นคุณต้องกินวิตามินซีทุกๆ วัน ไม่ใช่กินวันนี้มากๆ เผื่อวันอื่นๆด้วย เพราะไม่ว่าจะกินมากอย่างไรร่างกายก็ดูดซึมไปไม่หมดแน่ แต่การกินวิตามินซีมากๆ นั้นไม่มีอันตรายใดๆ ต่อร่างกาย ยิ่งจะมีประโยชน์ด้วยสำหรับการขับถ่าย โดยเฉพาะถ้าคุณกินวิตามินซีจากแหล่งอาหารอย่างผักและผลไม้ ถ้าคุณรับประทานมะม่วงดิบ 100 กรัม ก็จะได้วิตามินซีประมาณ 60 มิลลิกรัมอย่างสบายๆ
กระเทียมดูแลหัวใจ
กระเทียมเป็นของคู่ครัวที่คนไทยเราคุ้นเคยกันดี แต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่าในกระเทียมนั้นมีสาร อาหารสำคัญมากมายมหาศาลที่ล้วนแล้วแต่มีสรรพคุณทางยาอย่างน่าอัศจรรย์ กระเทียมช่วยป้องกันอาการหัวใจล้มเหลว ช่วยควบคุมความดันโลหิตให้อยู่ในระดับปกติ บำรุงประสาท กระตุ้นให้จิตใจสดใส ไม่หดหู่ ซึมเศร้า ไม่เป็นโรคเหน็บชา กล้ามเนื้อแข็งแรง มีกำลังวังชา กระตุ้นให้ร่างกายเกิดความอยากอาหาร เยียวยาอาการไอ รักษาโรคพยาธิ ขับปัสสาวะ ช่วยบำรุงระบบทางเดินหายใจ บรรเทาอาการที่เกี่ยวกับโรคลำไส้ บำรุงเลือด ป้องกันโรคตับ โรคเส้นโลหิตตีบตัน บำบัดอาการโรครูมาติซึม โรคข้ออักเสบ ต้านทานโรคภูมิแพ้ ช่วยลดคอเลสเตอรอล นอกจากนั้นกระเทียมยังรักษาโรคเกี่ยวกับผิวหนังได้อีกด้วย ถ้าคุณรับประทานกระเทียมสม่ำเสมอโรคภัยอันตรายต่างๆ จะไม่มากล้ำกรายร่างกายทำลายสุขภาพของคุณ ได้แน่นอน กระเทียมช่วยขจัดสารพิษออกจากร่างกาย คนที่มีไขมันอุดตันในเส้นเลือดมากอาจเกิดการหัวใจวายได้ การรับประทานกระเทียมเป็นประจำเท่ากับว่าคุณได้ดูแลหัวใจของคุณให้แข็งแรงไว้ก่อนที่จะมีอาการใดๆ เกิดขึ้น
เมื่อไร้เรี่ยวแรง หน้ามือ วิงเวียน แก้ไขรวดเร็วได้อย่างไร
เมื่อคุณทำงานหนักอย่างต่อเนื่องหรือออกกำลังกายอย่างหักโหมคุณจะรู้สึกตัวสั่น หน้ามืด เหมือนจะเป็นลม หรือรู้สึกอ่อนเปลี้ยเพลียแรง แสดงว่าขณะนั้นภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำลง คุณสามารถฟิตสภาวะของร่างกายให้สดชื่นขึ้นมาได้อย่างทันทีทันใดด้วยการรับประทานน้ำส้มคั้นสดๆ สัก แก้ว ซึ่งเป็นทางออกที่ถูกต้องและมีประโยชน์มากกว่าดื่มน้ำผสมกลูโคสหรือเครื่องดื่มที่ผสมสารรสหวานใดๆ อาหารประเภทบะหมี่ ก๋วยเตี๋ยว ข้าว ขนมปัง ถั่วต่างๆ ผักสดและผลไม้สดๆ ทุกชนิด จะนำพลังและความสดชื่นมาสู่ร่างกาย นำน้ำตาลสู่สมองของคุณอย่างถูกต้องและปลอดภัย ได้ผลเร็วกว่าการดื่มเครื่องดื่มผสมน้ำตาลที่เรามักเข้าใจผิดกันมาโดยตลอด
น้ำมันตับปลา อาหารเสริมที่น่าสนใจ
เรามักเข้าใจว่าน้ำมันตับปลาเป็นอาหารเสริมที่เหมาะสำหรับเด็กๆ เท่านั้น แต่ความจริงแล้วแม้ แต่คนในวัยหนุ่มสาวและผู้ใหญ่ ผู้สูงอายุก็สมควรสนใจอาหารเสริมตัวนี้อย่างจริงจังเช่นกัน น้ำมันตับปลาช่วยบำรุงร่างกายให้แข็งแรง กระตุ้นให้การเผาผลาญในร่างกายเป็นไปอย่างดีเยี่ยม เด็กๆ หรือ ผู้ใหญ่ที่เริ่มที่จะผอมแห้งแรงน้อย เจ็บป่วยง่าย ร่างกายขาดสารอาหาร ก็ควรรับประทานน้ำมันตับปลา ซึ่งปัจจุบันก็มีรสต่างๆ เพื่อให้รับประทานได้ง่าย และมีชนิดแคปซูลอีกด้วย
หอมหัวใหญ่ไม่ใช่ตัวประกอบ
ในอาหารจานต่างๆ ที่มีหอมหัวใหญ่ประกอบอยู่ด้วยนั้นส่วนใหญ่ดูเหมือนว่ามันเป็นเพียงตัว ประกอบที่ช่วยเพิ่มรสชาติให้กับอาหารจากนั้น มิได้เป็นตัวเด่นตัวเอกแต่อย่างใด แต่แท้จริงแล้วหอมหัวใหญ่เป็นแหล่งวิตามินและแร่ธาตุสำคัญๆ มากมายเช่น แคลเซียม เหล็ก ฟอสฟอรัส วิตามินซี เอ บี1 และบี2 โดยเฉพาะ "กำมะถัน" คือแร่ธาติสำคัญที่จะบันดาลผิวพรรณอันเปล่งปลั่งสดใสให้กับคุณได้อย่างวิเศษ ซึ่ง มีกำมะถันในหอมหัวใหญ่มากมายทีเดียว ถ้าคุณรับประทานหอมหัวใหญ่สม่ำเสมอผิวพรรณของคุณจะดูผุดผ่อง มีสีเลือดฝาด บ่งบอกถึงสุขภาพที่ดีของผิวความเนียนละมุนละไมจะเกิดขึ้นอย่างเห็นได้ชัด หอมหัวใหญ่ทำให้คุณขับถ่ายสะดวกสบายและยังทำให้นอนหลับได้ง่ายแบบสบายๆ อีกด้วย คนที่เป็นหวัดง่ายหรือแพ้อากาศก็ควรรับประทานหอมหัวใหญ่เสมอๆ ซุปมันฝรั่งใส่หอมหัวใหญ่ ไข่เจียวหอมหัวใหญ่ ยำต่างๆ สลัดต่างๆ เหล่านี้คือเมนูหอมหัวใหญ่ที่คุณควรใส่ใจ
มะเขือเทศอาหารวิเศษเพื่อสุขภาพ
มะเขือเทศฝานบางๆ สีแดงอมส้มสดใสน่ากินมักกลายเป็นเครื่องประดับอาหารจานอร่อย หลากหลายรายการ เป็นต้นว่าข้าวผัด ยำต่างๆ ของทอดของว่างต่างๆ โดยที่บางท่านไม่แตะต้องมันเลยสักชิ้น แต่คุณรู้บ้างไหมว่าถ้าคุณรับประทานมะเขือเทศเพียงวันละ 1-2 ลูกเท่านั้น จะให้ประโยชน์ต่อร่างกายของ คุณมากมายมหาศาลเพียงใด ต้านโรคความดันโลหิตสูง บำรุงดวงตา บำรุงสายตา บำบัดอาการปัสสาวะขัด บำรุงเหงือกและฟัน ป้อง กันหลอดเลือดแข็งตัว เยียวยาโรคเลือดออกตามไรฟัน ต้านทานโรคภัยไข้เจ็บ คุ้มกันไม่ให้เป็นหวัดง่าย แก้ท้องผูก บำรุงผิวพรรณ ทั้งหมดที่กล่าวมานี้…ถ้าคุณรับประทานมะเขือเทศเป็นประจำสม่ำเสมอ วันละ 1-2 ลูกทุกวัน สุขภาพของคุณก็จะสดชื่นแข็งแรง และได้ประโยชน์จากสรรพคุณอันแสนวิเศษของมะเขือเทศทั้งหมดนั้นอย่างแน่นอน
อายุมากไม่ควรกินยามาก
เมื่อคนเรามีอายุสูงขึ้นความเจ็บไข้ได้ป่วยมักจะมาเยือนอยู่บ่อยๆ คนที่มีอายุมากขึ้นจึงหลีก เลี่ยงไม่พ้นที่จะต้องรับประทานยานานาชนิดอยู่เป็นประจำ แต่มีความจริงข้อหนึ่งที่เรายังไม่ตระหนักกันว่ายาบางชนิดที่คนสูงอายุต้องรับประทานเข้าไปบ่อยๆ หรือทุก วี่ทุกวันนั้นกลับไปทำให้คนสูงอายุตกอยู่ในสภาวะที่ร่างกายขาดสารอาหาร ยาบางชนิดจะขับวิตามินและแร่ธาตุสำคัญออกไปจากร่างกาย เช่น วิตามินเอ วิตามินดี วิตามินอี วิตามินเค ไนอาซิน และปริมาณสังกะสี แมกนีเซียม โพรแทสเซียม ก็จะลดลงไปไม่น้อยอีกด้วย มียาอีกหลายชนิดที่แม้จะมีสรรพคุณเยียวยารักษาโรคหรืออาการบางอย่างได้ดีแต่ก็มีสารที่ไปทำลายสมองของผู้ป่วย โดยเฉพาะยาของคนป่วยเป็นโรคความดันโลหิตโรคพิษสุรา โรคเกี่ยวกับจิตประสาท มักมีสารที่กระทบกระเทือน ทำให้สมองไม่คึกคักสดชื่นและระบบการเผาผลาญในร่างกายทำงานได้อย่างไร้ประสิทธิภาพ ดังนั้นถ้าลดการรับประทานยาประเภทระงับอาการต่างๆ ลงไปได้บ้างก็จะมีประโยชน์ต่อสุขภาพของคนอายุมากอย่างแน่นอน
กินแมงกานีสวันละหน่อย ไม่ปวดหลัง ไม่ขี้ลืม ไม่เซื่องซึม
ถ้าร่างกายขาดแมงกานีสคุณจะรู้สึกว่าความจำไม่ค่อยดี ขี้หลงขี้ลืม หรืออาจมีอาการปวดหลัง ข้อกระดูกสันหลังเสื่อม การย่อยอาหารก็ทำงานอย่างขาดประสิทธิภาพ แต่ถ้าร่างกายได้แมงกานีสอย่างพอเพียงกล้ามเนื้อของคุณจะมีการยืดตัวหดตัวดีเยี่ยม ไม่ปวดหลัง ความ เซื่องซึมอ่อนเปลี้ยเพลียแรงก็จะหมดสิ้นไป ความจำดี ไม่มีอาการขี้ลืมง่ายๆ ลดอาการระคายเคืองทางประสาท นอกจากนั้นคนที่ป่วยเป็นโรคลมบ้าหมูก็สามารถมีอาการดีขึ้นได้ถ้ารับประทานแมงกานีสอย่างพอเพียง แหล่งอาหารที่อุดมด้วยแมงกานีส คือ ถั่วต่างๆ เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ถั่วทอด นม เนย ไข่ เนื้อสัตว์ ผักและผลไม้
ลองรับประทานรำข้าว เพื่อบำรุงร่างกายบ้าง
รำข้าวเป็นแหล่งวิตามินและแร่ธาตุที่อุดมสมบูรณ์มาก โปรตีน วิตามิน และเกลือแร่ต่างๆ ที่มี อยู่ในรำข้าว มีดังนี้ วิตามินบี1 บี2 บี3 บี5 บี6 กรดโฟลิก ไบโอติน วิตามินอี โซเดียม โพแทสเซียม แคลเซียม แมกนีเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก ทองแดง สังกะสี กำมะถัน และคลอไรด์ คุณอาจลองรับประทานรำข้าวด้วยการผสมกับนมสด 1 แก้ว ดื่มทุกวันหรือหุงปนกับข้าวต้ม ข้าวสวย นำไปปรุงร่วมกับอาหารบางอย่างก็ได้ เช่น ไข่เจียวหรือผัดต่างๆ รำข้าวจะช่วยทำให้คุณหมดปัญหาในการขับถ่าย ช่วยป้องกันโรคนิ่ว โรคเกี่ยวกับลำไส้
เห็ดหอมอัศจรรย
์ คุณประโยชน์มหาศาลที่เห็ดหอมจะบันดาลให้แก่สุขภาพของคนเราก็คือ บำรุงสมอง เพิ่มความสดชื่นคึกคัก ลดคอเลสเตอรอล ช่วยในระบบย่อยอาหาร ป้องกันหลอดเลือดแดง แข็งตัว ต้านมะเร็ง รักษาหอบหืด ลดความเครียด ต้านไวรัส บำรุงระบบประสาท ช่วยให้หลับง่าย บำรุงปอด บำรุงหลอดลม ชะลอความชรา ฯลฯ คุณควรบำรุงสุขภาพด้วยการนำเห็ดหอมมาปรุงอาหารทุกๆ สัปดาห์เป็นประจำ โดยนำมาปรุงเป็นอาหารจานผัดๆ ต้มๆ แต่ไม่ควรรับประทานในปริมาณมากจนเกินไป
ผมหงอกก่อนวัยกินอาหารช่วยได
้ เมื่อคุณมีเส้นผมบางส่วนที่หงอกขาวทั้งๆ ที่อายุยังไม่มากนัก คุณแก้ไขด้วยการย้อมสีผมซึ่งจะ ช่วยได้ดีพอควร แต่ก็ต้องย้อมกันเป็นประจำตลอดไปแน่นอน อาหารบางอย่างมีคุณสมบัติช่วยบำรุงเส้นผม เล็บมือ และผิวของคนเราอย่างได้ผล เส้นผมหงอกนั้นเป็นเพราะขาดทองแดง กรดโฟลิก กรดแพนโทเทนิก และพาบา คุณสามารถแก้ไขเส้นผมที่หงอกขาวให้กลับมาดำสนิทดังเดิมได้ด้วยการรับประทานโยเกิร์ต ตับ และยีสต์ โดยมีข้อแม้ว่าจะต้องรับประทานปริมาณมากๆ ทุกมื้อและทุกๆ วันอย่างสม่ำเสมอ
คนสายตาสั้น ควรสนใจวิตามินใดบ้าง
อย่าคิดว่าเมื่อสายตาสั้นแล้วก็จะต้องสั้นมากขึ้นเรื่อยๆ เสมอไป เนื่องจากว่าเซลล์ประสาทตานั้นจะไม่เสื่อมลงไปถ้าได้รับการบำรุงที่ดี โดยมากเราจะเคยได้รู้เพียงว่าคนที่รับ ประทานวิตามินเอเป็นประจำสม่ำเสมอจะมีดวงตาสวย สายตาดี เพราะวิตามินเอเกี่ยวข้องกับสายตาโดยตรงอยู่แล้ว แต่ทางวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้ค้นคว้าพบว่าวิตามินบี1 และวิตามินอีมีคุณสมบัติช่วยบำรุงเรื่องตาของคนเราได้เป็นอย่างดี การขาดวิตามินอีทำให้จอรับภาพของตาเสื่อม การขาดวิตามินบี1 ประสาทที่ทำหน้าที่นำภาพไปสู่สมองก็จะเกิดผิดปกติ มีผลทำให้ประสาทเสื่อม อาหารที่เป็นแหล่งวิตามินอี และ บี1 ที่ดี ได้แก่ ตับ นม ถั่วลิสง ถั่วต่างๆ ไข่แดง ข้าวซ้อมมือ เต้าหู้ เนื้อหมู งา กระเทียม และสาหร่าย
เลซิติน บำรุงหัวใจ บำรุงประสาท
แหล่งอาหารที่มีเลซิติน ได้แก่ ตับ เนื้อวัว ไข่ เนยแข็ง ถั่วเหลือง ถั่วลิสง ข้าวโพด ข้าวโอ๊ต ข้าวสาลีเป็นต้น เลซิตินจะให้ประโยชน์แก่ร่างกายในการบำรุงสมองอย่างดีเยี่ยมที่สุด นอกจากนั้นยังช่วยละลายไขมันในหลอดเลือด ช่วยบำรุงประสาท เพราะเลซิตินเป็นส่วนประกอบของแผ่น เนื้อเยื่อบางๆ ที่หุ้มรอบเส้นใยประสาทและยังเป็นตัวที่จำเป็นต้องการสร้างสารเคมีบางอย่างในระบบประสาท ผิวพรรณของคุณจะสดใส มีน้ำมีนวล ปราศจากรอยด่างดำ ริ้วรอยจุดกระต่างๆ รอยดำคล้ำรอบขอบตาจะหมดไป เลือดลมดี ไม่เหนื่อยง่าย อารมณ์แจ่มใส ก็ด้วยเลซิตินซึ่งมีอยู่มากเป็นพิเศษในถั่วเหลือง
น้ำผึ้งก็เป็นยาอายุวัฒนะ
สารอาหารสำคัญๆที่มีอยู่เต็มเปี่ยมในน้ำผึ้งก็คือ โปรตีน วิตามินบี1 บี2 บี5 และบี12 ไบโอติน เหล็ก ทองแดง แมงกานีส ซิลิคอน แคลเซียม โซเดียม โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส กำมะถัน โบรมีน และคลอรีน น้ำผึ้งมีสรรพคุณทางยา ช่วยบำรุงร่างกายให้กระปรี้กระเปร่า แข็งแรง สดชื่น เพิ่มพลัง แก้เบื่ออาหาร บำรุงหัวใจ บำรุงข้อต่างๆ ช่วยให้นอนหลับสบาย น้ำผึ้งจัดเป็นอาหารเสริมที่ดีที่คุณควรสนใจ หมั่นรับประทานเป็นประจำทุกๆ สัปดาห์ก็จะช่วยบำรุงร่างกายให้มีสุขภาพดีอย่างที่คุณพิสูจน์ได้
ตาสว่าง สมองโลดแล่น ด้วยสะระแหน
่ ในอาหารจานยำหรือจานผัดที่มีสะระแหน่โรยมาด้วยนั้นคุณควรจะรับประทานมากๆ เพราะ สะระแหน่ใบเล็กๆ กลิ่นแรงๆ นี่แหละมีคุณค่าสารอาหารไม่ธรรมดาเลยทีเดียว สะระแหน่มีเมนทอลและน้ำมันหอมระเหย จึงช่วยกระตุ้นปลายประสาทผิวหนัง ช่วยขับเหงื่อ ลดคลาย อาการหดเกร็งของกล้ามเนื้อ แก้อาการเป็นหวัดคัดจมูก แก้ร้อนใน บำรุงสมองให้ปลอดโปร่งและช่วยให้ตาสว่าง คึกคักสดชื่น ไม่ง่วงซึม
เป็นสิวต้องใส่ใจสุขภาพทั้งหมด
คนส่วนใหญ่เมื่อเป็นสิวแล้วมักจะสนใจดูแลแก้ไขปัญหาสิวเฉพาะที่ผิวหน้าเท่านั้น ซึ่งความ จริงแล้วสาเหตุที่เกิดสิวมาจากการไม่ดูแลสุขภาพของตัวเองนั้นเอง ถ้าคุณมีพฤติกรรมใดต่อไปนี้ นั่นล่ะคือปัจจัยสำคัญที่นำสิวมาสู่ใบหน้าของคุณ อดอาหารเพื่อลดน้ำหนัก รับประทานอาหารรสหวานจัดหรือมันจัด ติดกาแฟ ชา เหล้า เบียร์ น้ำอัดลม และบุหรี่ รับประทานอาหารที่ปนเปื้อนสารเคมี เช่น ของหมักดอง อาหารกระป๋อง รับประทานอาหารเร่งรีบ ไม่เคี้ยวให้ละเอียดก่อนกลืน ไม่ค่อยรับประทานผักสดๆ ผลไม้สดๆ จนถ่ายไม่เป็นเวลา หรือท้องผูก ดังนั้นหากคุณเลิกนิสัยดังกล่าวนี้แล้วรับประทานแต่ผักสด ผลไม้ อาหารรสไม่หวานจัด เลิกขนม ของ หวาน น้ำอัดลมต่างๆ การรักษาด้วยการล้างหน้าบ่อยๆ คุณจะได้ผลที่น่าพอใจแน่นอน
เรื่องของไข
่ สำหรับคนในวัยหนุ่มสาวและวัยผู้ใหญ่ไม่ควรรับประทานไข่เกิน 2 ฟองต่อ 1 สัปดาห์ เนื่อง จากการรับประทานไข่มากจะทำให้มีคอเลสเตอรอลมากเกินไปในกระแสเลือด แต่ในไข่ก็ยังมีสารอาหารสำคัญที่มีประโยชน์ต่อร่างกายหากรับประทานแต่น้อย คนป่วยที่เพิ่งฟื้นไข้ คนที่ต้องการเรี่ยวแรงกำลังวังชา คนป่วยเป็นโรคโลหิตจาง ล้วนแล้วแต่ต้องการไข่เพื่อ บำรุงสมอง บำรุงร่างกายให้แข็งแรง แม้แต่คนที่ต้องใช้เสียง เมื่อเสียงแหบแห้งเพียงรับประทานไข่ดิบเพียง 1 ฟองก็จะช่วยให้เสียงใส ไม่แหบแห้งได้ในช่วงนั้น ไข่แดงช่วยให้เด็กๆ แข็งแรง โตเร็ว ไข่ขาวพอกหน้าช่วยบำรุงรักษาสิว ลดความมันบนใบหน้าคนหนุ่มสาวอย่างได้ผลดีอีกด้วย
จัดเมนูมันเทศสัปดาห์ละครั้ง
มันเทศต้มเป็นอาหารเสริมสุขภาพที่แสนวิเศษ แต่ถ้าจะให้รับประทานทุกวันคุณคงเบื่อแน่นอน ดังนั้นอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้งที่ควรมีมันเทศอยู่ในมื้อใด มื้อหนึ่ง อาจต้มมันเทศเป็นอาหารว่างหรือต้ม มันเทศผสมในข้าวต้มบ้างก็ได้ การรับประทานมันเทศเป็นประจำจะช่วยบำรุงร่างกายให้แข็งแรง การขับถ่ายเป็นไปอย่างราบรื่น คนที่ผอมแห้งก็สามารถเพิ่มน้ำหนักได้ด้วยการรับประทานมันเทศเป็นประจำ แต่คนที่มีน้ำหนักตัวเกินพอดีควรรับประทานแต่เพียงเล็กน้อย จะได้ไม่แน่นท้องเกินไปนัก
บำรุงเลือดด้วยการกินธาตุเหล็ก
ธาตุเหล็กนั้นจำเป็นต่อสุขภาพของคุณอย่างมาก เพราะถ้าเมื่อใดก็ตามที่คุณปล่อยให้ร่างกาย ขาดสารอาหารสำคัญตัวนี้ร่างกายก็จะไม่สามารถสร้าสร้างเซลล์เม็ดเลือดได้พอเพียง คุณควรจัดเมนูอาหารที่มีธาตุเหล็กในแต่ละมื้อแต่ละวันอย่างสม่ำเสมอ อาหารที่อุดมไปด้วยธาตุเหล็กก็คือ ตับสัตว์ เครื่องในไก่ แครอท ฟักทอง เมล็ดฟักทอง มันฝรั่ง ถั่วเหลือง มะเขือเทศ กะหล่ำปลี บรอคเคอรี่
อาหารต้านความเศร้า
อารมณ์ซึมเศร้า หดหู่ หม่นหมอง สามารถทำให้คลายจางลงไปได้ด้วยการรับประทานอาหาร ที่อุดมไปด้วยเซเลเนียม เช่น หอยนางรม ปลาทูน่า ไก่งวง นม ซึ่งมีกรดโฟลิก เมื่อรับประทานอาหารเหล่านี้แล้วจะช่วยให้คุณมีอารมณ์แจ่มใส ไม่หงุดหงิดฉุนเฉียวง่าย เนื่องจากว่าการขาดกรดโฟลิก สารทริบโตแฟน มีผลให้เกิดความแปรปรวนในอารมณ์และอาการทางจิต ประสาทได้นั่นเอง
ถั่วสลายความเครียด
สภาวะที่แวดล้อมในปัจจุบันนี้ดูเหมือนว่ามีปัจจัยมากมายที่ก่อให้เกิดความเครียดได้ไม่ยาก และความเครียดที่เกิดขึ้นแล้วนั้นไม่ใช่จะทำให้คุณกลายเป็นคนหน้านิ่วคิ้วขมวดและอารมณืบูดจนไม่น่าเข้า ใกล้เท่านั้น แต่ความเครียดมีผลกระทบอย่างจริงจังต่อสุขภาพร่างกายและจิตใจของคุณ นอกจากการออกกำลังกายและการพักผ่อนแล้วการดูแลเรื่องอาหารในช่วงที่รู้สึกเครียดก็ช่วยคลายความกด ดันได้เป็นอย่างดี อาหารที่จะพิชิตความเครียดได้ก็คืออาหารที่มีวิตามินบีสูง และมีแมงกานีสสูง เช่น อะโวคาโด สตรอเบอรี่ ส้ม ถั่วฝักยาว ถั่วเหลือง ถั่วดำ ถั่วลิสง โดยเฉพาะ "ถั่ว" ชนิดต่างๆ คือพระเอกที่จะขจัดปัดเป่าความเครียดให้หมดสิ้นไปได้อย่างง่ายดาย
เนื้อสัตว์ไม่ใช่อาหารจำเป็นของคน
นี่คือความจริงข้อใหม่ที่อาจจะดูขัดแย้งกับสิ่งที่พวกเราได้รับการปลูกฝังมาตั้งแต่เด็ก ว่า โปรตีนคืออาหาร 1 ใน 5 หมู่ที่ร่างกายต้องการ และแหล่งโปรตีนที่ดีคือเนื้อสัตว์ แต่แท้จริงแล้วร่างกายของคนเราต้องการโปรตีน มิใช่ต้องการเนื้อสัตว์ คุณสามารถได้โปรตีนจากแหล่งอื่นที่ไม่ใช่เนื้อสัตว์ใหญ่ เช่น จากผักทุกชนิดที่มีใบเขียวจัด และเนื้อสัตว์ อย่าง ปลา หอย กุ้ง ซึ่งทำให้คุณได้โปรตีนพอเพียงกับความต้องการของร่างกายและดีกว่าเนื้อสัตว์ประเภทเนื้อวัวและเนื้อหมูที่ทำให้ระบบย่อยอาหารต้องทำงานหนักขึ้น และถ้ารับประทานมากเกินไปโปรตีนที่เหลือเป็นส่วนเกินจะถูกเปลี่ยนเป็นไขมันและน้ำตาลเก็บไว้ในร่างกาย มีผลทำให้คุณอ้วนขึ้นนั่นเอง และนอกจากนั้นถ้าคุณรับประทานเนื้อวัวและเนื้อหมูมากๆ กระบวนการย่อยก็ต้องทำงานหนักขึ้นเพราะต้องขับสารพิษหลายตัวที่เกิดจากการย่อยให้ออกไปจากร่างกาย จะทำให้แร่ธาตุต่างๆ อีกหลาย ตัวถูกขับออกมาด้วย น้ำในตัวคุณก็จะระเหยไปมาก มีผลกระทบต่อสุขภาพโดยตรงแน่นอน
กินบะหมี่บ่อยๆ อร่อยแล้วสุขภาพดีแน
่ คนที่ต้องการควบคุมน้ำหนักจนงดรับประทานข้าวเพราะอ้างว่าต้องการงดคาร์โบไฮเดรตที่จะ ทำให้อ้วนได้ไม่แพ้ไขมันนั้นควรอย่างยิ่งที่จะรับประทานอาหารบะหมี่บ้าง เพราะบะหมี่เป็นแหล่งคาร์โบไฮเดรตที่ยอดเยี่ยมพอๆ กับก๋วยเตี๋ยว สปาเกตตี มะกะโรนี และโรตี คุณสามารถรับประทานได้บ่อยๆ โดยไม่ต้องกลัวว่าจะอ้วนเพราะบะหมี่เป็นคาร์โบไฮเดรตละเอียด มีคุณสมบัติย่อยง่ายกว่าคาร์โบไฮเดรตชนิดธรรมดา
กลูโคส เกลือแร่ เพิ่มพลังงานจริงหรือ
คุณเคยพบว่ามีโฆษณาเครื่องดื่มประเภทกลูโคสหรือเกลือแร่มากมายหลายยี่ห้อที่เน้นสรรถคุณ ว่าให้พลังงาน เหมาะสำหรับผู้ที่ร่างกายสูญเสียเกลือและโพแทสเซียม ไปกับเหงื่อในขณะที่ออกแรงมากๆ หรือพวกนักกีฬา เป็นต้น แต่ความจริงแล้วถ้าคุณเล่นกีฬามาเหนื่อยๆ หรือออกกำลังไปมากๆ จนคิดว่าร่างกายสูญเสียเกลือไปกับเหงื่อ เครื่องดื่มที่ดีที่สุดสำหรับนาทีนั้นก็คือน้ำเปล่า จริงอยู่ที่ว่าร่างกายต้องการโซเดียม แต่เมื่อเหงื่อท่วมตัวในร่างกายก็มิได้อยู่ในภาวะขาดเกลือทันทีทันใด คุณต้องดื่มน้ำมากๆ ชดเชยเหงื่อที่หลั่งรินออกไปมาก น้ำจะเข้าสู่กระแสเลือดได้เร็วกว่าเครื่องดื่มเกลือแร่หรือกลูโคสด้วยซ้ำ และการดื่มน้ำเกลือเข้าไปทันทียิ่งไม่ถูกต้องเพราะร่างกายจะดึงน้ำไปจากกล้ามเนื้อเพื่อไปกรองเกลือทำให้กล้ามเนื้อขาดน้ำกะทันหันและไตของคุณอาจมีปัญหาเมื่อมีปริมาณเกลือในเลือดสูงเพราะน้ำระเหยภายในนั่นเอง
หอยแมลงภู่ชูกำลังตัวจริง
ถ้าจะพูดถึง "ไข่" ที่ยอมรับกันมานานว่าเป็นตัวเอกในการบำรุงพลังได้อย่างวิเศษแล้วนั้นที่แท้ ยังไม่ถูกต้องนัก หอยแมลงภู่ต่างหากที่เป็นตัวจริงสำหรับอาหารซึ่งมีสรรพคุณช่วยสร้างเสริมพละกำลังให้กับสุขภาพร่างกายของคุณได้อย่างเต็มที่มากกว่าไข่ เพราะไข่ทำให้ร่างกายมีคอเลสเตอรอลมากเกินพอดีถ้ารับประทานมากๆ แต่สำหรับหอยแมลงภู่ยิ่งรับประทานมากก็ยิ่งดี ไม่ว่าจะเป็นหอยแมลงภู่สดหรือแห้งก็ล้วนมีคุณค่าอาหารสูงกว่าเนื้อวัวและเนื้อหมู่ที่ดูจะมีบทบาทกับคนเรามากกว่าหอยแมลงภู่ ถ้าคุณรับประทานหอยแมลงภู่สม่ำเสมอร่างกายจะมีพลังแข็งแรงอย่างเห็นได้ชัด ระบบการไหลเวียนของเลือดดีเยี่ยม บำรุงเลือดลม รักษาความร้อนในร่างกายให้สมดุล และพิชิตอาการเฉื่อยชาอ่อนเปลี้ยเพลียแรงได้อย่างน่าอัศจรรย์
เบื่ออาหาร จิตใจหม่นหมอง ต้องลองกินลำไย
เด็กๆ มักถูกห้ามว่าอย่ารับประทานลำไยมากเกินไป จำทำให้ร้อนในและไม่สบายได้ แต่ถ้าเมือ ใดก็ตามที่คุณรู้สึกว่าร่างกายไม่สดชื่น ความคิดอ่านตื้อๆ ตันๆ ไม่คึกคัก อ่อนเพลีย เลือดลมไม่ดี จิตใจหม่นๆ มัวๆ อารมณ์แปรปรวนง่าย เมื่อนั้นแหละที่คุณควรสนใจลำไยเป็นพิเศษ คุณอาจลองหาซื้อลำไยชนิดตากแห้งนำมาปรุงร่วมกับเมนูจานใดจานหนึ่งก็ได้ เป็นต้นว่า ลำไยตุ๋นรวมกับไข่ตุ๋น ซอยลำไยแห้งลงไปในผัดหรือในแกงบ้างก็ไม่เลว ลำไยมีน้ำตาลที่เป็นเมนูโปรดของ "สมอง" และเป็นน้ำตาลที่ไม่มีพิษภัยอย่างน้ำตาลทรายขาว คุณจะรู้สึกอยากรับประทานอาหารมากขึ้น เจริญอาหาร มีกำลังวังชา ความคิดแล่นราบรื่น สมองปลอดโปร่ง อารมณ์ดี ลำไยยังช่วยบำรุงม้าม บำบัดโรคกระเพาะ บำรุงหัวใจ บำรุงการไหลเวียนของเลือด บำรุงระบบประสาท ทำให้ไม่เครียดง่าย
ขิงยิ่งแก่ยิ่งเป็นยาดี แก้คลื่นไส้ รักษาท้องเฟ้อ
ขิงแก่ปรุงเป็นเมนูไก่ผัดขิงหรือขิงแก่ซอยใส่โจ๊กและอาหารจานอื่นๆ นั้นมักถูกเขี่ยทิ้งไปอย่าง น่าเสียดาย คุณควรฝึกเด็กๆ และแนะนำผู้ใหญ่รอบข้าง (รวมทั้งตัวคุณเอง) ให้หมั่นรับประทานขิงบ้าง เพราะขิงมี สรรพคุณทางยา จะช่วยบำบัดเยียวยาอาการสะอึก อาการท้องเฟ้อ ท้องอืด แน่นท้อง อาการคลื่นไส้พะอืดพะอมอยากอาเจียน ขิงช่วยขับลมและขับความเย็นชื้นในร่างกาย แม้แต่อาการคัดจมูกและเป็นไข้หวัดเพียงรับประทานขิงก็ทุเลาและหายได้ทันใจ ควรเติมขิงซอยในอาหารจานใดก็ได้อย่างสม่ำเสมอเพื่อรักษาสุขภาพ
ฟื้นฟูร่างกายด้วยปลาตะเพียน
สารอาหารในปลาตะเพียนจะช่วยเสริมสร้างพลังงานแก่ร่างกายของคนที่เพิ่งฟื้นไข้ได้ดีหรือถ้า คุณรู้สึกอ่อนเพลียง่าย ไร้เรี่ยวแรงเจ็บป่วยบ่อยๆ ร่างกายอ่อนแอ คุณควรรับประทานปลาตะเพียนเพื่อฟื้นฟูสภาพร่างกายให้มีพลังและสดชื่นขึ้นอย่างทันอกทันใจ ปลาตะเพียนยังช่วยแก้ร้อนในได้ดี บำรุงม้าม ช่วยขับปัสสาวะ แม้รับประทานทุกๆ วันก็ไม่ทำให้ร่างกาย "ร้อน" เกินไป เหมือนอาหารบำรุงบางชนิด เพราะปลาตะเพียนมีฤทธิ์ปานกลาง อาการไอ เจ็บคอ กระหายน้ำบ่อยๆ ก็จะหายไปถ้ารับประทานปลาตะเพียนเป็นประจำ
ปลาแห้งตัวเล็กตัวน้อยให้วิตามิน D แสนด
ี คุณทราบอยู่แล้วว่าวิตามินดีนั้นช่วยดูแลกระดูกให้แข็งแรง ช่วยดูดซึมแคลเซียมและ ฟอสฟอรัสจากกระแสเลือดสู่กระดูก ช่วยให้เด็กๆ เติบโตเร็ว แข็งแรง แล้วคุณทราบไหมว่าปลาแห้งตัวเล็กๆ น้อยๆ นั่นแหละคือแหล่งวิตามินดีที่ดีเยี่ยมเลยทีเดียว นอกจากปลาตัวเล็กตัวน้อยแล้วแหล่งวิตามินดีอื่นๆ ยังมีอีกมาก เช่น ปลาซาร์ดีน ปลาซาบะ ปลากระป๋อง ปลาทูน่า ทอดมันปลา ลูกชิ้นปลา เห็ดหอม ตับ ไข่แดง นม เนยสด เป็นต้น
หมั่นดื่มน้ำมะนาว กินสตรอเบอรี่ มะเขือเทศ ถ้ามักใช้ยาแก้ปวดเป็นประจำ
เมื่อปวดหัว ปวดฟัน ตัวร้อนเป็นไข้ เป็นหวัด คนเรามักสะดวกในการซื้อหายาจากร้านขาย ยาใกล้บ้านมารับประทานเองโดยไม่ต้องไปพบแพทย์ เพราะรับประทานยาแอสไพรินเพียง 1-2 วันก็สามารถหายป่วยได้แล้ว แต่การใช้ยาแอสไพรินบ่อยๆ ครั้งหรือใช้ต่อเนื่องเป็นเวลานาน ตัวยาจะไปต้านการดูดซึมวิตามิน ทำให้วิตามินต่างๆ โดยเฉพาะวิตามินซีถูกขับไสไล่ส่งออกจากร่างกายของคุณโดยทางปัสสาวะ ฉะนั้นช่วงใดที่คุณต้องใช้ยาแก้ไข้ แก้ปวดต่างๆ แล้วก็ควรเติมวิตามินซีให้กับร่างกายมากเป็นพิเศษ วิตามินซีมีอยู่ในผักสดและผลไม้ทุกชนิด หรือถ้าคุณหมั่นดื่มน้ำมะนาวบ่อยๆ (ไม่ต้องเติมน้ำตาลมาก) รับประทานสตรอเบอรี่และมะเขือเทศสดๆ เป็นประจำ ร่างกายก็จะได้วิตามินซีอย่างพอเพียงแน่นอน
ต้องกินอะไรจึงจะได้วิตามินเอ
วิตามินเออยู่ในเครื่องในสัตว์ ปลาไหล นม เนย น้ำมันตับปลา ส่วนวิตามินเอในรูปแคโรทีน อยู่ในพืชผักสีเหลืองหรือสีส้ม เช่น แครอท แตงโม แอปริคอท ส้ม ฟัก ทอง ข้าวโพด มันฝรั่ง มันเทศ น้ำเต้า ในพืชผักสีเขียวและสีขาวก็มีบ้าง เช่น สาหร่ายทะเล ดอกกะหล่ำ แตงกวา หอมหัวใหญ่ เด็กๆ ต้องการวิตามินเอเพื่อร่างกายที่เจริญเติบโต โครงกระดูกแข็งแรงเจริญอาหาร เม็ดเลือดแดงได้รับการสร้างเสริม ฟันมีสารเคลือบ หนุ่มสาวและผู้ใหญ่ก็ต้องการวิตามินเอมาทำหน้าที่สำคัญๆ มากมาย ช่วยดูแลเซลล์ผิวหนังและเยื่อบุ ช่วยให้ผิวสวย ตาดี ผมงาม เล็บแข็งแรง
บำรุงประสาทด้วยไทอามีน
ไทอามีนก็คือวิตามินบี1 ซึ่งมีหน้าที่ช่วยในกระบวนการเปลี่ยนแป้งหรือน้ำตาลให้เป็นพลังงาน ถ้าร่างกายขาดวิตามินบี1 เมื่อใดการเปลี่ยนแปลงนี้ก็จะติดขัดบกพร่อง มีผลต่อร่างกายมากมายดังนี้ ระบบประสาทผิดปกติ ทำให้ปวดศีรษะบ่อยๆ ประสาทอ่อน หงุดหงิดง่าย อารมณ์เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย ท้องอืด ท้องผูก เบื่ออาหาร น้ำหนักลดหรือเพิ่มเกินปกติ หอบง่าย เหนื่อยง่าย เป็นเหน็บชา พูดติดอ่าง สายตาเสื่อม หัวใจทำงานเสื่อมลง ฯลฯ แต่ถ้าร่างกายได้รับวิตามินบี1 หรือไทอามีนเพียงพอความสดชื่นกระฉับกระเฉงก็จะเกิดขึ้น การรับประทานของหวานมากๆ ก็ทำให้ไทอามีนยิ่งลดน้อยลง อาหารที่มีวิตามินบี1 คือ ข้าวกล้อง ข้าวสาลี ข้าวซ้อมมือ ตับ เต้าหู้ ถั่วหมัก ถั่วแระ รำข้าว งา กระเทียม
ตาแดง ปากเป็นแผล เฉื่อยชา ต้องถามหาไรโบฟลาวิน
ความจริงแล้วไรโบฟลาวินที่คุณต้องการก็คือวิตามินบี2 นั่นเอง หน้าที่ของวิตามินบี2 คือการช่วยสังเคราะห์คาร์โบไฮเดรต เปลี่ยนน้ำตาลและแป้งให้กลายเป็นพลังงาน สร้างเอนไซม์ที่จำเป็นช่วยในการรับออกซิเจนเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจ ซ่อมแซมเนื้อเยื่อ เมื่อคุณมีอาการตาแฉะ ตาแดง หรือลิ้นเป็นแผล มุมปากเป็นแผล ริมฝีปากอักเสบ นั่นล่ะคือสัญญาณของการขาดไรโบฟลาวิน อาการเฉื่อยชา เกียจคร้าน ไม่มีแรง ตาไวต่อแสง ตาพร่า แสบตา ปากคล้ำ มุมปากด่างขาว ง่วงบ่อยๆ ตัวสั่นๆ เดินเหินไม่คล่อง ความดันโลหิตสูง ตัวเล็กแคระไม่โต (กลุ่มเด็กๆ) อาการเหล่านี้จะเกิดขึ้นเมื่อร่างกายขาดสารสำคัญนี้ ซึ่งคุณจะต้องรีบรับประทานอาหารที่มีไรโบฟลาวินให้พอเพียง เช่น ไข่แดง นม นมแม่(สำหรับเด็ก) ตับวัว ตับหมู เนยแข็ง ไข่ปลา ยีสต์ เนื้อวัว ไก่ ถั่ว มันฝรั่ง
ฟุ้งซ่าน หลับยาก พฤติกรรมสับสน แก้ไขได้ด้วยการกินอาหารบางกลุ่ม
คุณควรรับประทานอาหารที่เป็นแหล่งวิตามินบี3 คือ ปลา นม เมล็ดข้าวสาลี ผักใบเขียว เนื้อสัตว์ ถ้าปล่อยให้ร่างกายขาดวิตามินบี3 โดยเฉพาะท่านที่ดื่มเหล้ามากๆ จะยิ่งต้องการวิตามินบี3 ผลร้ายที่เกิดขึ้นเมื่อขาดวิตามินบี3 มีมากมาย เป็นต้นว่าลิ้นอักเสบ มีกลิ่นปากแรง กระพุ้งแก้มเปื่อย เป็น โรคลำไส้ ขับถ่ายยาก ง่วงซึม คลื่นไส้วิงเวียน ปวดศีรษะบ่อยๆ เครียด วิตกกังวล ฟุ้งซ่านจนนอนไม่หลับ อยากหัวเราะหรืออยากร้องไห้โดยไร้สาเหตุ พฤติกรรมวุ่นวายแปรปรวน สับสนหดหู่ ก้าวร้าว
รับประทานถั่วต่างๆ เพื่อเยียวยาผิวหยาบกร้าน
การที่ผิวพรรณหยาบกร้านไม่นวลเนียนสดใสนั้นก็เป็นสาเหตุหนึ่งของการขาดวิตามินบี6 นอกจากผิวแห้งหยาบกร้านแล้วอาจมีอาการอื่นๆ คือเป็นแผลที่ลิ้น เป็นโรคโลหิตจาง โรคลมชัก โรคเศร้า ซึม หอบหืด เป็นนิ่วในไต อาหารที่มีวิตามินบี6 จะช่วยบำรุงระบบประสาท บำรุงสมอง ป้องกันตะคริว คุณสามารถรับประทานวิตามินบี6 ได้จากเนื้อไก่ เนื้อปลา เนื้อหมู ตับ ข้าวโพด แฮม เนื้อวัว กล้วย ลูกเกด ลูกพรุน โดยเฉพาะถั่วต่างๆ และถั่วแขก
น้ำมันพืชก็มีวิตามินเหมือนกัน
ในการปรุงอาหารจานผัดๆ ทอดๆ น้ำมันพืชเป็นปัจจัยสำคัญที่ขาดไม่ได้ แต่คนที่สนใจเรื่อง การลดระดับคอเลสเตอรอลในเส้นเลือด การลดหรือควบคุมน้ำหนัก ก็มักจะงดเว้นอาหารผัดๆ ทอดๆ เพื่อเลี่ยงไขมัน ซึ่งนั่นเป็นการดูแลสุขภาพที่ถูกต้อง แต่ถ้าคุณจะรับประทานอาหารจานผัดจานทอดบ้างก็ไม่ใช่เรื่องน่ากลัว เพราะในน้ำมันพืชนั้นเป็นแหล่ง วิตามินอีที่ดีเยี่ยม วิตามินอีช่วยบำรุงกล้ามเนื้อหัวใจ ช่วยดึงประโยชน์จากไขมันมาใช้กับต่อมต่างๆ คุ้มครองปกป้องมิให้วิตามินต่างๆ สูญสลาย ดูแลมิให้เลือดจับเป็นก้อน ช่วยสร้างเสริมผิวหนังใหม่ ชะลอความชราและช่วยปรับอุณหภูมิในร่างกาย น้ำมันพืชที่คุณจะใช้ประกอบอาหารนั้น คุณควรใช้เพียงเล็กน้อยในการผัดหรือทอดอาหาร นอกจากในน้ำมันพืชแล้ววิตามินอีพอมีอยู่บ้างไม่มากในข้าวโอ๊ต ผักกาดหอม มะเขือเทศ แครอท ไข่แดง ไข่ปลา ถั่วต่างๆ และเมล็ดทานตะวัน
แพ้ท้องรุนแรงนึกถึงวิตามินบี6
ว่าที่คุณแม่คนใหม่เมื่อตั้งครรภ์แล้วควรรับประทานอาหารที่อุดมด้วยวิตามินบี6 เพื่อป้องกัน อาการแพ้ท้อง หรือถ้าเกิดมีอาการแพ้ท้องอย่างรุนแรงแล้วการรับประทานวิตามินบี6 มากๆ ก็จะช่วยลดอาการนั้นให้ทุเลาเบาบางลงไปได้อย่างดี นอกจากช่วยเยียวยารักษาอาการแพ้ท้องแล้วยังช่วยดูแลสุขภาพของคุณแม่และลูกน้องในครรภ์อีกด้วย อาหารที่เป็นแหล่งวิตามินบี6 ได้แก่ ถั่วต่างๆ ถั่วเหลือง ไข่ นม ข้าวโพด ข้าวสาลี ตับสัตว์
สิงห์อมควันต้องการวิตามินซีมากเป็นพิเศษ
การที่คุณสูบบุหรี่มากๆ นั้นทำให้วิตามินซีลดลง บุหรี่เพียง 1 มวน สามารถทำลายวิตามินซี ได้ถึง 25 มิลลิกรัม ลองคิดดูว่าถ้าวันหนึ่งๆ คุณสูบบุหรี่ 10 มวนหรือ 20 มวนวิตามินซีจะถูกทำลายไปกี่ร้อยมิลลิกรัม หากคุณยังไม่สามารถเลิกบุหรี่ได้ก็ควรรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินซีเพื่อให้ร่างกายได้วิตามินซี อย่างพอเพียง ผักสดๆ ผลไม้สดๆ ล้วนเป็นแหล่งวิตามินซีที่ดีเยี่ยม มะเขือเทศ สตรอเบอรี่ มะนาว ส้ม พริกหยวก ผักกะหล่ำปลี ฯลฯ เหล่านี้ควรรับประทานสดๆ จะเกิดผลดีต่อสุขภาพแน่นอน
นักดื่มอย่าลืมรับประทานตับ
ในตับนั้นมีวิตามินและแร่ธาตุสำคัญๆ มากมายมหาศาล คุณสามารถรับประทานตับสัตว์ได้ทุก มื้อหรือทุกวันโดยไม่ได้รับพิษภัยใดๆ จากการรับประทานมากๆ โดยเฉพาะถ้าคุณชอบดื่มเหล้า ดื่มเบียร์ หรือไวน์ ร่างกายของคุณยิ่งต้องการวิตามินบี6 และวิตามินบี1 เพื่อช่วยลดไขมันในตับ ช่วยทำหน้าที่ดูดซึมโปรตีนและไขมัน และช่วยดูแลระบบประสาท ตับมีวิตามินบี6 และบี1 ส่วนแหล่งอาหารอื่นๆ ที่มีวิตามิน 2 ชนิดนี้ได้แก่ รำข้าว ถั่วหมัก ถั่วแระ เต้าหู้ กระเทียม สาหร่ายทะเล งา กระเทียม ปลา นม ไข่ ข้าวโพด
นักกินอาหารจานด่วนควรเสริมด้วยอะไร
สภาพสังคมปัจจุบันอาจไม่อำนวยให้คุณปรุงอาหารรับประทานเองที่บ้านทุกๆ วัน ทุกๆ มื้อได้ ดังนั้นการฝากท้องไว้กับร้านอาหารจึงเป็นกิจวัตรที่คนส่วนใหญ่ปฏิบัติ แต่อาหารจานด่วนจานเดียวที่คุณสั่งมารับประทานหรืออาหารขยะประเภทเบอร์เกอร์ต่างๆ มิได้มีคุณค่าสาร อาหารพอเพียงแก่ร่างกายอย่างแน่นอน และเมื่อขาดสารอาหารอาการผิดปกติต่างๆ ก็จะเกิดขึ้นกับร่างกายโดยที่คุณอาจไม่คิดว่าเป็นผลจากการขาดสารอาหารซึ่งเป็นคำพูดที่ฟังดูแล้วไม่น่ากลัวแต่อย่างใด แม้แต่อาการเล็กๆ น้อยๆ เป็นต้นว่าผิวหยาบกร้าน ผมร่วง อารมณ์หงุดหงิดง่าย เฉื่อยชา ฯลฯ เหล่านี้ก็เกิดขึ้นเพราะร่างกายขาดสารอาหารบางอย่าง
ข้าวโพดต้มไม่ใช่แค่ของว่างธรรมดา
คนไทยเรานิยมรับประทานข้าวโพดต้มเป็นของว่าง รับประทานเล่นๆ เพื่อความเอร็ดอร่อย จากตรอกซอกซอยจะพบว่ามีข้าวโพดต้มควันกรุ่นหอมฉุยขายอยู่ทั่วไป หาซื้อได้ง่าย แต่หลายๆ ท่านคงยอมรับว่าห่างหายจากการซื้อข้าวโพดต้มมารับประทานนานพอสมควรแล้วเหมือนกัน ข้าวโพดต้มนั้นมีวิตามินและแร่ธาตุสำคัญมากมายที่ร่างกายต้องการ ข้าวโพดต้มโดยเกลือ ข้าวโพดต้มโรยน้ำตาล เมื่อรับประทานอย่างสม่ำเสมอจะช่วยขับปัสสาวะ ลดอาการบวมน้ำ ช่วยขยายหลอดเลือด ปรับระดับคอเลสเตอรอลให้มีไม่มากเกินพอดีในร่างกาย ลดภาวะหลอดเลือดแข็งตัว ทำให้คุณไม่ป่วยเป็นโรคความดันโลหิตสูง ช่วยต้านโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด และยังช่วยป้องกันมะเร็งได้ดีเป็นพิเศษ
ปรนนิบัติหนังศีรษะเมื่อผมร่วง
สาเหตุของผมร่วงมีมากมายเหลือเกิน การที่เส้นผมของคุณหลุดร่วงมากผิดปกติแล้วคุณไปหา ซื้อครีมบำรุงหรือยาปลูกผมมารักษาเองนั้นอาจไม่ใช่วิธีที่ได้ผล เพราะอาจเป็นการรักษาไม่ตรงกับสาเหตุที่แท้จริง การอบผม ไดร์ผม เป็นประจำ การกัดสีผม ย้อมสีผม การว่ายน้ำทุกๆ วัน จนสารเคมีเกาะจับทำลายสภาพผม ความเครียด กรรมพันธุ์ โรคบางชนิด การติดเชื้อ การใช้ยาบางชนิดเป็นประจำ ต่อมไร้ท่อผิดปกติ ช่วงตั้งครรภ์ ฯลฯ ทั้งหมดนี้เป็นสาเหตุที่ทำให้ผมร่วงมากๆ ได้ทั้งนั้น คุณควรปรึกษาแพทย์โดยตรงจะดีกว่าคาดเดาเอาเอง เพราะบางทีคุณอาจขาดสารอาหารบางชนิดผมจึงร่วง ซึ่งการบำรุงด้วยครีมแพงๆ นับ 10 ขวดก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้อย่างแน่นอน เมื่อคุณมีอาการผิดปกติ ผมหลุดร่วงมากก็ควรหมั่นเอาอกเอาใจหนังศีรษะด้วยการนวดคลึงให้ทั่วๆ ศีรษะ การนวดจะทำให้เลือดไหลเวียนดี ณ บริเวณหนังศีรษะ การนวดจะช่วยกระตุ้นเลือดให้ไปหล่อเลี้ยงเส้นผมได้อย่างเต็มที่และทั่วถึง แต่คุณจะต้องนวดๆ คลึงๆ อย่างเบามือ การนวดแรงๆ ไม่ได้ให้ประโยชน์ใดเลย เช่นเดียวกับการหวีผมแรงๆ ก็จะทำให้เส้นผมขาดง่าย หนังศีรษะ เป็นแผล และเกิดรังแคได้ง่าย คุณควรหมั่นนวดคลึงหนังศีรษะและใช้หวีนุ่มๆ หวีผมช้าๆ นานๆ โดยเฉพาะบริเวณหนังศีรษะควรใช้แปรงหวีผมนวดคลึงด้วย ไม่ใช่หวีแค่เส้นผม ควรหวีตั้งแต่โคนผมที่หนังศีรษะลงไปจนจรดปลายผม การนวดหนังศีรษะเป็นการกระตุ้นให้เลือดไหลเวียนทั่วหนังศีรษะเพื่อรักษาสุขภาพของเส้นผม แต่ไม่ใช่เป็นการกระตุ้นที่จะทำให้เส้นผมงอกงามได้ทันใจแต่อย่างไร
ร้อนนักต้องฟักเขียว
คุณสามารถดับร้อนในร่างกายได้ด้วยการรับประทานฟักเขียว จะนำมาต้มจืด ตุ๋น หรือผัด ก็ แล้วแต่ความพอใจ ฟักเขียวมีคุณสมบัติที่ค่อนข้างเย็น เมื่อรับประทานแล้วคุณจะหายจากอาการร้อนใน เพราะฟักเขียวจะช่วยดับความกระหาย ช่วยให้คอชุ่มชื้น ระบายความร้อน แก้ท้องผูก ลดอาการบวมน้ำ เมืองไทยเราอากาศร้อนอบอ้าว ถ้าคุณรับประทานฟักเขียวอย่างสม่ำเสมอคุณจะไม่ค่อยเป็นแผลในปากและไม่ต้องเลียริมฝีปากบ่อยๆ เมื่อปากแห้ง
อันตรายจากท้องผูก
อาการท้องผูกนั้นโดยมากเกิดขึ้นกับคุณผู้หญิงที่ลดน้ำหนักอย่างไม่ถูกต้อง มีการอดอาหาร ทำ ให้ไม่มีอะไรจะถูกขับถ่ายออกมา บางท่านไม่ได้เล่นกีฬา ไม่เคยออกกำลังกาย บางท่านไม่รับประทานอาหารที่มีกากและเส้นใย มีผลทำให้ลำไส้ไม่ได้ออกกำลังจึงไม่มีประสิทธิภาพในการทำงาน ด้วยเหตุนี้คุณผู้ชายจึงเป็นน้อยกว่าผู้หญิง เมื่อท้องผูกร่างกายก็ไม่ได้ขับถ่ายของเสียออกจากร่างกาย สุขภาพของคุณจะทรุดลงจนผิวพรรณแห้ง หยาบกร้าน หรือผิวมีแต่จุดด่างดำ รอยตุ่ม รอยผื่นต่างๆ คุณควรฝึกการขับถ่ายให้เป็นเวลา อย่ากลั้นไว้นาน หรือไม่ก็ควรสนใจกับการขับถ่ายหรือการกินอาหารอุดมเส้นใยเพื่อช่วยในการขับถ่าย
อาบน้ำอุ่นกระตุ้นระบบหายใจ
ถ้าบ้านของคุณมีเครื่องทำน้ำอุ่นอยู่แล้วการอาบน้ำอุ่นอย่างสม่ำเสมอก็คงสามารถทำได้สะดวก แต่สำหรับบ้านที่ไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่น ก็สามารถที่จะต้มน้ำร้อนอาบบ้างอย่างน้อย 2 สัปดาห์ต่อ 1 ครั้งก็คงไม่วุ่นวายจนเกินไปนัก การอาบน้ำอุ่นช่วยกระตุ้นระบบหายใจให้ทำงานมีประสิทธิภาพขึ้น ดังนั้นจึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับท่านที่มีสุขภาพหัวใจไม่แข็งแรงนัก อุณหภูมิของน้ำมีความอุ่นพอเหมาะ เช่น 45 องศา ยังจะช่วยเยียวยาอาการของโรคกระเพาะอาหารได้ดีอีกด้วย ทำให้ร่างกายสดชื่น ความดันโลหิตเป็นปกติ นอนหลับสบาย แต่หากอาบน้ำที่ร้อนมากๆ จะยิ่งทำให้ร่างกายของคุณอ่อนเพลียมากขึ้น
คอนแท็กเลนส์ต้องสะอาดที่สุด
คนสายตาสั้นที่ไม่ชอบการสวมแว่นเสริมบุคลิก แต่รู้สึกสะดวกสบายกับการใส่คอนแท็กเลนส์ มากกว่า ก็ควรจะยึดถือในเรื่องความสะอาดอย่างเคร่งครัดที่สุด คอนแท็กเลนส์ชั่วคราวก็ใช้ได้สะดวกสบายดี แต่คุณก็ต้องหมั่นล้างด้วยน้ำยาทำความสะอาดเลนส์เช่นเดียวกับชนิดถาวร เพื่อขจัดคราบไขมันและเศษละอองธุลีต่างๆ ที่ตาเปล่าของคุณอาจมองไม่เห็น ปัจจุบันมีคอนแท็กเลนส์ชนิดใส่นอนได้ แต่โดยหลักความจริงแล้วคุณไม่ควรจะใส่ในขณะนอนหลับ และอย่าลืมว่าคุณจะต้องล้างมือฟอกสบู่ให้สะอาดทุกๆ ครั้งก่อนและหลังที่จะสัมผัสคอนแท็กเลนส์
ดวงตาก็เมื่อยล้าเป็นเหมือนกัน
คุณเคยรู้สึกเมื่อยมือหรือปวดหลัง ปวดเอว แต่อาจไม่เคยรู้สึกเมื่อยดวงตาอย่างจริงจัง เพราะ ดวงตาเป็นอวัยวะที่เสมือนมิได้ต้องทำงานหนักนักๆ ทั้งๆ ที่จริงแล้วดวงตาคู่นี้ของคุณทำงานหนักกว่าอวัยวะบางส่วนเสียอีก แม้คุณจะไม่รู้สึกเมื่อยตานักแต่เมื่อใช้สายตามากๆ ต่อเนื่องกัน 2-3 ชั่วโมงก็ควรพักคราวหนึ่งด้วยการบริหารดวงตา วิธีง่ายๆ ในการบริหารดวงตาก็คือ วางศีรษะตรงๆ กลอกตาไปในลักษณะรูปวงกลมๆ ซ้ำๆ จากตรงไปทางขวา ลงข้างล่างก่อนที่จะวนไปทางซ้าย เหลือบมองขึ้นข้างบน แล้ววนกลับทางขวา ทำสลับข้างกันอีกครั้ง แล้วก็ทำดังเดิมสลับกันอีก 1 ชุด การบริหารดวงตาเช่นนี้วันละ 2 ครั้งทุกวันทำให้ดวงตาได้รับการผ่อนคลายดีที่สุด
กลิ่นหอมเพื่อสุขภาพ
ในบ้านของคุณนั้นหากมีกลิ่นอับๆ ก็อาจมีผลต่ออารมณ์ของคุณได้อย่างที่คุณอาจไม่รู้ตัว ความหอมนั้นมีผลดีต่ออารมณ์ของคนเราอย่างจริงแท้ ในปัจจุบันจึงมีน้ำมันหอมระเหยหลากกลิ่นหลาย สไตล์เพื่อสุขภาพโดยตรง ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันหอมระเหยชนิดที่ผสมกับน้ำอาบ ชนิดที่ทานวดทั่วร่าง และชนิดที่ต้องจุดเทียนอังให้ตัวน้ำมันระเหยส่งกลิ่นหอมอบอวล แต่ละกลิ่นนั้นมีคุณสมบัติแปลกแยกแตกต่างกันออกไป เป็นต้นว่ากระตุ้นระบบประสาทให้คึกคักกระฉับกระเฉง คลายเครียดหรือช่วยให้หลับสบายเป็นต้น ถ้าคุณไม่ชอบกลิ่นหอมจากน้ำมันหอมระเหยเหล่านี้ก็อาจใช้สำลีชุบน้ำหอมเล็กน้อยแล้วนำไปวางข้างหมอน ในตู้เสื้อผ้า เพื่อให้มีกลิ่นหอมเย็นๆ ทุกมุมในบ้าน สร้างความรื่นรมย์ให้สุขภาพจิตใจได้เป็นอย่างดี
No comments:
Post a Comment